รีวิว Kengan Ashura
รีวิวอนิเมะ Kengan Ashura กำปั้นอสูรโทคิตะ เป็นอนิเมะ แนว ศิลปะการต่อสู้ และ การใช้สมอง และ พละกำลัง เพื่อเอาชนะศัตรู สุดโหด อีกอย่าง อนิเมะเรื่องนี้สนุกเกินคาดจริงๆแอดแนะนำเลยย สนุกเกินคาด ศึกของนักสู้และนักธุรกิจ ผลงานยอดเยี่ยมจาก Netflix
Netflix ทำได้ดีเกินคาด เล่าเรื่องราวของเหล่านักสู้ในสังเวียนละเลงเลือดที่มันส์สะใจ แต่ก็มีการผสมผสานกับศึกทางธุรกิจในโลกทุนนิยมได้ยอดเยี่ยมแบบไม่น่าเชื่อ มีการใช้ตัวละครที่เป็นตัวแทนคนดู ทำให้อินกับเรื่องราวง่ายขึ้น ใครที่ผิดหวังมาจาก Baki ต้องดูเรื่องนี้ เพราะเหนือกว่าทุกอย่างทั้ง ตัวละคร การเดินเรื่อง แถมมีมุมชีวิตจริงมากกว่า
OVERALL
8.5/10
เรตติ้งเฉลี่ยจากผู้อ่าน 4 (4 votes)
คะแนนความคิดเห็น 0 (0 reviews)
รีวิว Kengan Ashura จุดเด่น
เนื้อเรื่องสุนก น่าติดตามมาก ตัวเนื้อเรื่องก็คาดเดาไม่ง่ายอย่างที่คิด
ตัวละครมีเสน่ห์น่าติดตาม ทั้งเหล่านักสู้และเหล่านักธุรกิจในเรื่อง
เป็นการเอาเรื่องแนวนักสู้ในสังเวียนเลือด มาผสมกับศึกทางธุรกิจในโลกทุนนิยมได้ดีจนเหลือเชื่อ
มีแง่คิดเกี่ยวกับศิลปะต่อสู้ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ถึงจะโอเวอร์ไปบ้าง
ตัวเอกน่าเอาใจช่วย โดยเฉพาะยามาชิตะ คาสึโอะ ที่เป็นเสมือนตัวแทนคนดู แต่ก็มีบทเจ๋ง ๆ พอสมควร
จุดด้อย
วิชาต่อสู้หลายอย่างเหนือจริงเกินไป
ตัวละครสู้กันดุเดือดรุนแรง แต่ฟื้นตัวกันเร็วเกินไปหน่อย
เรื่องอยู่ในขอบเขตของสมาคมเคนกัน ทำให้นักสู้จากนานาชาติในเรื่องแทบไม่เกี่ยวข้องกับเส้นเรื่องหลัก
ดูผ่าน Netflix คลิกที่นี่
Kengan Ashura รีวิว อนิเมจากผลงานของ Netflix ดัดแปลงจากมังงะในชื่อเดียวกัน ส่วนชื่อไทยใช้ชื่อว่า “กำปั้นอสูรโทคิตะ” ที่เล่าเรื่องราวของเหล่านักสู้ในสังเวียนละเลงเลือดที่มันส์สะใจ แต่ยังมีการผสมผสานกับศึกทางธุรกิจในโลกความเป็นจริงของทุนนิยมเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมแบบไม่น่าเชื่อ
เรื่องนี้ทีมสร้างได้ตีความและดัดแปลงจากต้นฉบับมังงะออกมาดีมาก เรียกได้ว่าเป็นผลงานยอดเยี่ยมของ Netflix ในปีนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งก็ต้องรอซีซันหน้าที่จะปิดฉากเรื่องราวทั้งหมดกันต่อไป ส่วนในไทย มีฉบับลิขสิทธิ์ มังงะแปลไทย กับ สนพ.สยามอินเตอร์ เพิ่งออกมาเล่ม 1-7 และยังไม่จบภาค
เรื่องย่อ
ในโลกแห่งความเป็นจริง ทุนนิยมกำลังครองโลก ทุกบริษัท องค์กร ห้างร้าน กลุ่มต่าง ๆ พากันขับเคี่ยวในสงครามธุรกิจที่รุนแรง ซึ่งในญี่ปุ่นเอง สงครามของเหล่าพ่อค้าได้มีมาตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน จนกระทั่งเกิดความรุนแรงและนองเลือด จากการแย่งชิงผลประโยชน์ทางการค้า กระทั่งใน ศตวรรษที่ 16 โชกุนโทกุงาวะได้เรียกเหล่าพ่อค้ามาประชุมจนกระทั่งเหล่าพ่อค้าทั้งหมดได้ทำความตกลงกันว่า จะใช้การตัดสินด้วยวิธีการต่อสู้ ทำให้เกิดศึกสังเวียนเลือด ที่นำเหล่านักสู้จากทุกสารสิทศมาลงสังเวียนเพื่อประลองกัน โดยแต่ละคนจะเป็นเสมือนตัวแทนของร้านค้าหรือกลุ่มการค้านั้น ๆ ผู้ที่ชนะก็จะได้รับผลประโยชน์ ส่วนผู้แพ้ต้องยอมรับแต่โดยดี หากไม่ยอมรับก็จะถูกลงโทษ การจัดระเบียบให้โลกการค้าด้วยการต่อสู้ในสังเวียนนี่จึงเป็นที่มาทำให้เกิด “สมาคมเคนกัน” ขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นสมาคมที่อยู่เบื้องหลังโลกธุรกิจทั้งหมดที่สืบทอดต่อเนื่องมาอย่างลับ ๆ ถึงยุคปัจจุบัน
กระทั่งวันหนึ่ง ชายหนุ่มปริศนาชื่อว่า “โทคิตะ โอมะ” ซึ่งใช้วิชาการต่อสู้ที่ถูกเรียกว่า วิชานิโกะ ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้วได้เข้าร่วมในการประลองเคนกัน โดยไม่มีใครทราบว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไร และอะไรที่คือที่มาของความแข็งแกร่งผิดมนุษย์ของเขา
แต่การประลองเคนกัน ไม่ใช่ว่าใครก็จะเข้าร่วมได้ง่าย ๆ ซึ่งก็ทำให้ “ยามาชิตะ คาสึโอะ” พนักงานกินเงินเดือนวัยกลางคนของเครือสำนักพิมพ์โนกิ ถูกดึงเข้ามาใช้เป็นหมากในการเข้าร่วมประลองเคนกัน เขาถูกประธานของเครือโนกิสั่งให้เป็นตัวแทนของบริษัทยามาชิตะที่เพิ่งตั้งใหม่สด ๆ ร้อน ๆ พร้อมพ่วงมาด้วยหนี้สินก้อนใหญ่ในการตั้งบริษัท โดยมี โทคิตะ โอมะ เป็นนักสู้ในสังกัดคนแรกและคนเดียว เพื่อเข้าร่วมในการประลองแบบทัวนาเม้นต์ที่มีเป้าหมายสูงสุดคือ การเลือกตั้งประธานสมาคมเคนกันคนใหม่ ซึ่งทั้งสองคนจะต้องเผชิญหน้ากับเหล่ายอดนักสู้จากทั่วสารทิศและเหล่าผู้นำทางธุรกิจของกลุ่มบริษัท ไปจนถึงองค์กรนักฆ่าและกลุ่มที่เคลื่อนไหวในเงามืดของโลกทุนนิยม
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพันของสองคนต่างวัย ต่างวิถีชีวิต ที่จะต้องร่วมกันเอาตัวรอดในการประลองเคนกัน ซึ่งรุนแรงและโหดร้ายทั้งในสังเวียนของเหล่านักสู้และสังเวียนการค้าของเหล่านักธุรกิจที่พร้อมวางแผนและใช้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายโดยไม่เลือกวิธีการ
Kengan Ashura
โทคิตะ โอมะ และ ยามาชิตะ คาสึโอะ ที่สถานการณ์ทำให้ต้องจับมือกันเข้าร่วมในศึกเคนกัน
ทำไมถึงควรดู
สำหรับคนที่ชอบอนิเมะแนว นักสู้ที่ใช้วิชาและศิลปะต่อสู้หลากหลายแบบทั่วโลกแล้วเข้ามาตะลุยประลองกันในสังเวียนชนิดละเลงเลือด ต้องไม่พลาดเรื่องนี้ครับ แถมเรื่องนี้ยังมีความโดดเด่นเป็นพิเศษที่แตกต่างจากการ์ตูนแนวนักสู้ในสังเวียนก็คือ การผสมผสานเอาโลกการแข่งขันในวงการธุรกิจเข้ามาเป็นแก่นหลักในเรื่อง ซึ่งมีความเข้มข้นไม่แพ้การประลองบนสังเวียน เต็มไปด้วยการชิงไหวพริบ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ที่สะท้อนโลกทุนนิยมออกมาอย่างเต็มที่
แล้วที่สำคัญคือ มันทำให้เรื่องนี้มีความสมจริงและดูจับต้องได้อย่างยอดเยี่ยมครับ เพราะในโลกความเป็นจริงแล้ว เพียงแค่พละกำลังหรือคนที่เชี่ยวชาญวิชาต่อสู้นั้น หาใช่สิ่งที่ทำให้คน ๆ หนึ่งหรือองค์กรหนึ่งครองความเป็นใหญ่ได้ แต่ที่จริงคืออำนาจเงิน พลังของทุนนิยม มันสมอง และไหวพริบในทางธุรกิจและการเมือง
แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบเรื่องแนวนักสู้กล้ามโต ล่ำบึก สู้กันแบบเลือดสาด เรื่องนี้ยังมีจุดดีอีกอย่างคือ ไม่ขาดแคลนตัวละครสาว ๆ สวย ๆ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่ามีตัวละครหญิงค่อนข้างเยอะทีเดียวครับ แล้วแต่ละคนไม่ได้มาเป็นแค่ไม้ประดับในเรื่อง แต่มีบทบาทสำคัญต่อเรื่องเลยก็มี เพราะตัวละครหญิงบางคนเข้าร่วมในศึกเคนกันในฐานะตัวแทนบริษัทหรือเจ้าของธุรกิจนั้น ๆ ด้วย
Kengan Ashura
อากิยามะ คาเอเดะ เลขาของประธานเครือโนกิ ที่ต้องมาช่วยดูแลโอมะและยามาชิตะ
ในขณะที่การประลองยุทธ์ตะลุยสังเวียนชนิดละเลงเลือดในเรื่อง ก็เป็นเพียงเครื่องมือให้องค์กรธุรกิจและบริษัทต่าง ๆ ใช้เป็นเบี้ยในการทำให้ความต้องการของตนเป็นจริงเท่านั้น แต่เรื่องก็ไม่ได้นำเสนอแต่ในด้านโหดร้ายหรือดิบเถื่อนเข้าว่าอย่างเดียว มันยังมีการเล่าในแง่มุมของเหล่านักสู้ที่ควรจะเป็นในชีวิตจริง ที่มีทั้งแพ้ มีทั้งชนะ ไม่มีใครไร้เทียมทานตลอดกาล
รวมถึงการโยงเอาสังเวียนของเหล่านักสู้เข้ากับสงครามทางธุรกิจ ที่ก็ไม่ได้มีแต่การหักหลังหรือเอาแต่แสวงหาผลประโยชน์อย่างเดียวเช่นกัน แต่ยังมีมิตรภาพ ความเชื่อใจ ผลประโยชน์ร่วม และเล่าความสัมพันธ์ของคนเราในมุมที่ถึงจะดราม่า และมีการเล่าย้อน Flashback ของตัวละครเกือบทั้งหมดอยู่ตลอดเรื่อง แต่การเล่าก็ไม่ได้เป็นฟูมฟาย มีการสอดแทรกมุกตลกร้าย ทั้งในการเล่าเรื่องและงานภาพ ซึ่งถือว่าเรื่องนี้ทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อครับ
ส่วนในเรื่องวิชาและศิลปะการต่อสู้ที่ปรากฏในเรื่อง โอเค เข้าใจว่ามันคือการ์ตูน เพราะฉะนั้นหลายวิชาและหลายกระบวนท่า อาจจะไม่สามารถใช้ในการต่อสู้จริงได้ แต่ก็ถือว่าเป็นความพยายามสร้างสรรค์ที่ดี ตัวเอกอย่างโอมะ ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้เทียมทานมาตลอดแต่แรก วิชานิโกะ ซึ่งเป็นวิชาต่อสู้ประจำตัวของตัวเอกที่มีความพิสดาร เมื่อดูในเรื่องไปเรื่อย ๆ จะพบว่าวิชาของตัวเอกก็ไม่ได้ถูกพรีเซนต์ออกมาว่าเป็นวิชาไร้เทียมทานอะไร ตัววิชาก็ยังมีจุดอ่อน และยังมีวิชาอื่นที่มีจุดแข็งเหนือกว่าอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ในเรื่องจะมีการใส่แง่คิดของการพัฒนาวิชาต่อสู้ในแต่ละสาขาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ดังนั้นนักสู้เกือบทั้งหมดในเรื่องนี้จะมีลักษณะของการใช้วิชาต่อสู้แบบผสมผสานกันพอสมควร คือไม่ได้ยึดติดแค่วิชาที่ตัวเองใช้เท่านั้นครับ
อันนี้เพิ่มเติม สำหรับคนดูชาวไทยที่อาจจะผิดหวังจากเรื่อง Baki ที่คนเขียนเรื่องนั้นเอาวิชาและนักมวยไทยไปปู้ยี้ปู้ยำราวกับว่าเก็บกดจากชีวิตจริงที่เห็นนักมวยไทยไล่ถล่มนักสู้ชาวญี่ปุ่นจากในสังเวียน K-1 แต่สำหรับเรื่องนี้สบายใจได้ครับ เพราะตัวละคร เก้าล้าน วงสวัสดิ์ นักมวยไทยในเรื่องนี้ถือว่าเป็นนักสู้ตัวระดับ Top คนหนึ่งที่เก่งกาจของเรื่อง แม้ว่าโดยบทบาทจะเป็นตัวประกอบรอง ๆ ที่ไม่ได้มีความสำคัญอยู่ในเส้นเรื่องหลัก แต่ก็ถือว่าได้นำเสนอมวยไทยออกมาได้ดีมาก ๆ (แล้วยังมีนักมวยพม่าด้วย ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกในโลกการ์ตูนญี่ปุ่นเลย)
คาตาฮาระ ซายากะ พิธีกรหญิง ลูกสาวของประธานคาตาฮาระ (ที่คนพากย์แหกปากประกาศตอนเหล่านักสู้ขึ้นเวทีได้สุดยอดมาก)
เก้าล้าน วงสวัสดิ์ นักมวยไทยในเรื่อง แมัจะเป็นตัวประกอบ แต่ก็ถือว่าเป็นนักสู้ระดับต้น ๆ เลย
โดยสรุปแล้ว ภาพรวมเรื่อง Kengan Ashura กำปั้นอสูรโทคิตะ จะมีส่วนที่คล้ายกับเรื่องแนวต่อสู้ชื่อดังอย่าง Baki แต่จุดที่ Kengan Ashura นำเสนอและสร้างสรรค์ออกมาได้ดีกว่ามาก ๆ คือการโยงเอาเรื่องของการต่อสู้ในสังเวียนเลือดให้เข้ากับเรื่องธุรกิจและศึกระหว่างบริษัทต่าง ซึ่งเป็นชีวิตจริง ๆ ที่พวกเราทุกคนเจอกันอยู่ในยุคทุนนิยม เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงมีส่วนที่โม้โอเวอร์ตามสไตล์การ์ตูนต่อสู้ กับส่วนที่คนดูจะอินได้ง่าย ๆ สำหรับเรื่องธุรกิจ การค้า การทำงาน และการเอาตัวรอดในสังคมทุนนิยมเลยครับ เพราะไม่ว่าตัวเอกหรือเหล่านักสู้ในเรื่องจะเก่งกาจและมีพละกำลังเหนือคนทั่วไปกันแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังเป็นเบี้ยและต้องทำงานอยู่ใต้คนที่กุมอำนาจเงินและบริษัทการค้าต่าง ๆ อยู่ดีนั่นเอง แต่เรื่องนี้ก็ไมได้นำเสนอสังคมทุนนิยมและโลกธุรกิจที่มันโหดร้ายไปซะหมด มันยังมีการเล่าในแง่มุมดี ๆ ที่น่าประทับใจเหมือนกันครับ
สำหรับคราวหน้า จะอัพเดทตัวละครสำคัญในเรื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สร้างตัวละครต่าง ๆ ออกมาได้น่าสนใจและดีเยี่ยมมากครับ ไม่ใช่แค่ตัวนักสู้ แต่ยังรวมถึงเหล่านักธุรกิจและตัวแทนบริษัทต่าง ๆ ในเรื่อง ซึ่งมีการใช้ชื่อที่คล้ายกับบริษัทจริง ๆ เข้ามาทั้งเรื่อง ชนิดที่เราเห็นแล้ว ร้องอ๋อกันเลย
ส่วนคนที่สนใจ สามารถรับชมได้ทาง Netflix มีสองซีซันครับ (ที่จริงคือซีซันเดียว แต่แบ่งฉายเป็นสองช่วงแรกกับช่วงหลัง)
ติดตามอนิเมะ ได้ที่ ดูการ์ตูนออนไลน์ ดูการ์ตูน