รีวิว จับคู่กู้โลก
รีวิว อนิเมะ วันนี้เราจะมาริวิว อนิเมะโรแมนติก ที่หาดูได้ง่ายมากๆ ในเน็ตฟิก แอดแนะนำเลย ว่าควรดู เพราะ แอดยังติดจนแทบไม่นอน รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว งงมั้ย 5555 เนื้อเรื่องนั้นทำมาดี บวกกับตัวละคร ที่ไม่มากไม่น้อยเกินไป ลองๆๆๆๆ ดูๆๆๆๆๆ ครับ
Maoyu: Archenemy & Hero
เวอร์ชั่นนิยายที่ได้รับความนิยม
Maoyu
รีวิว จับคู่กู้โลก Netflix เวอร์ชั่นอนิเมชั่นทำได้ใกล้เคียงต้นฉบับแต่สีจะดูสดใสกว่า
นี่เป็นเรื่องราวของโลกที่มีเผ่าพันธ์มนุษย์และปีศาจต่อสู้กันเป็นเวลานาน ผู้กล้าคนปัจจุบันที่ตัดสินใจเดินทางมาถึงปราสาทจอมมารเพียงคนเดียวเพื่อที่มาปราบจอมมารแต่มาพบว่าเป็นจอมมารหญิง และยังปีศาจสาวแสนฉลาดที่มีความรู้รอบด้าน ซึ่งแทนที่จะได้สู้กัน เธอได้ชักชวนผู้กล้ามาร่วมมือกับเธอเพื่อทำให้โลกของทั้งสองฝ่ายสงบสุขโดยไม่ต้องต่อสู้ เพราะการต่อสู้กันให้ตายไปข้างไม่ได้ทำให้โลกสงบสุขเลย กลับทำให้ระบบเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูเพราะเงินจากทางการรบต้องหยุดลง และทำให้ประเทศชายแดนที่ยากจนต้องล่มสลายทันที และยังมีปัญหาเรื่องการค้าทาสและเชลยศึก แต่เธอจะใช้ความรู้ที่มีทั้งทางเศรษฐศาสตร์, ทางการเกษตร, การแพทย์, ฯลฯ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกช้าๆแต่ยั่งยืน ผู้กล้าจึงตกลงร่วมมือ โดยที่ทั้งสองเริ่มเปลี่ยนจากหมู่บ้านเล็กๆ ที่โลกมนุษย์ ทั้งให้ความรู้และทำการเกษตรซึ่งเมื่อเริ่มเห็นผลก็ทำให้ศาสนจักรไม่พอใจเพราะเริ่มสูญเสียอำนาจ ทำให้เป็นจุดเริ่มต้น และชนวนไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกนี้
การตูนเรื่องนี้มีอยู่ 12 ตอนทำออกมาได้ถึงแค่ช่วงแรกๆ ของนิยาย ซึ่งจากที่ดูแล้วน่าจะทำมาเพื่อการโฆษนานิยายและการตูน เพราะหลังจากออกฉายปี 2556 ก็ไม่มีข่าวภาคใหม่เลย ซึ่งจบได้ค้างคามาก แต่ในตอนที่เอามาก็นำเสนอออกมาได้ดีอาจจะทำออกมาเบาลงและดูย่อยง่ายขึ้นเหมาะสำหรับคนที่อยากดูการตูนสบายๆ ภาพสวย แต่เนื้อหาแน่นเพราะบทนิยายดี เป็นการตีแผ่สังคมในยุคมั้ยเก่าที่มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมและมีเรื่องการเมืองอีกด้วย แต่ด้วยความฉลาดของตัวละครและวิธีการต่างๆในเรื่องทุกด้านน่าสนใจ ทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามมีการอธิบายส่วนต่างๆ ให้เข้าใจง่าย คนที่ชอบการตูนฉลาดอารมย์คล้ายๆ Spice and Wolf น่าจะชอบได้ไม่ยาก
รีวิว จับคู่กู้โลก
ที่ผมชอบที่สุดในเรื่องนี้คือชื่อตัวละคร ในการตูนเรื่องนี้จะไม่มีชื่อจริงหรือนามสกุลใดๆ ทุกคนในเรื่องพูดถึงคนอื่นด้วยตำแหน่งหรือหน้าที่เท่านั้นเช่นตัวเอกคือผู้กล้า นางเอกคือจอมมารก็มีชื่อแค่นั้นคุยกันก็เรียกกันแค่นั้น อาจมีฉายาหรือสมยาให้แยกตัวละครที่คลายๆกันออกได้ โดยรวมๆ ก็ถือว่าสนุกและประทับใจโดยเฉพาะการพูดถึงคุณค่าของคน และข้อคิดที่ว่าความรู้สำคัญมากสำหรับมนุษย์ทุกยุคทุกสมัยนำเสนอได้ตรงจุดและน่าสนใจมาก
ส่วนข้อติก็จะมี บางส่วนอาจจะอธิบายน้อยมากถ้าไม่ได้อ่านนิยายหรือดูการตูนเล่มมาก่อนอาจจะงงได้เพราะเรื่องบางช่วงก็ดำเนินเร็วไปนิด บางทีกลับไปกลับมาย้อนอดีตก็ไม่ได้บอกรายละเอียดเท่าไหร่ซึ่งอาจทำให้คนดูอาจจะสับสนได้ง่าย และที่จริงในการตูนชื่อตัวละครในภาคอนิเมะนี้อธิบายได้ไม่ดีนักทำให้ตัวละครบางตัวไม่รู้ว่าเป็นใครและดูน่าสับสนอยู่บ้าง เพราะในฉบับนิยายจะใช้ชื่อเรียกและแนะนำตัวละครทุกตัวแต่แรก ในนี้ใช้บทสนทนาที่ไม่มีการเรียกชื่อ อาจทำให้บทพูดดูเป็นธรรมชาติ แต่คนดูเห็นตัวละครบางตัวยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร จะมาอธิบายก็ตอนหลังจากคุยกันไปแล้วทำให้คนที่มาดูน่าจะสับสนพอสมควร
ถ้าเรื่องนี้ได้มีการทำโดยทีมที่ดีกว่านี้หรือ ทำเพื่อให้มีต่อจนจบเรื่องได้จะเป็นเรื่องที่ได้คะแนนมากกว่านี้ แต่พอทำแบบกั๊กๆ หน่อยเลยต้องหักคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถึงอย่างนั้นการตูนเรื่องนี้มีจุดนำเสนอของเรื่องที่ดีมาก ใครชอบการตูนที่บทสร้างสรรค์ต้องขอแนะนำให้ลองดูซักครั้งครับ เพราะไม่ยาว และอาจจะทำให้เราอยากไปหานิยายมาอ่านต่อก็เป็นได้ครับ
ก่อนหน้านี้ผมมีรีวิวการ์ตูนเรื่องนึงที่ชื่อเรื่อง “จอมมารนักเศรษฐศาสตร์กับผู้กล้าบ้าพลัง” ไปให้อ่านกันแล้วนะครับ และในนั้นผมบอกไว้ว่า เรื่องนี้มีการหยิบมาวาดหลายเวอร์ชั่น และ ในไทยน่าจะมีอยู่ 3 เวอร์ชั่น แต่ เวอร์ชั่นของ “จอมมารนักเศรษฐศาสตร์กับผู้กล้าบ้าพลัง” นั้นพิมพ์ไม่จบครับออกมา 7 เล่มแล้วแพ และวันนี้ผมจะมารีวิวอีกเวอร์ชั่นนึง ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเดียวในไทยที่ทำออกมาจนจบครับ นั่นคือหนังสือเรื่องนี้ครับ “MAOYU จอมมารจับคู่ผู้กล้ากู้โลก”
.
เนื่องด้วยทั้งเรื่องนั้นและเรื่องนี้ มันก็คือเนื้อเรื่องเดียวกันแต่คนละคนวาดทำให้มีการดัดแปลงหรือนำเสนอที่แตกต่างกันนะครับ เพราะฉะนั้นในการริวิวในครั้งนี้กับเรื่อง “MAOYU จอมมารจับคู่ผู้กล้ากู้โลก” นั้นผมจะเพ่งเล็งไปที่ 2 เรื่องครับ เรื่องแรกก็คือ การวาดและนำเสนอในแบบฉบับของ Maoyu นี้ กับ อีกเรื่องคือ ตอนจบของเวอร์ชั่นนี้ที่เป็นเวอร์ชั่นเดียวที่ทำจนจบออกมาครับ ส่วนอื่นๆ ผมอาจจะมีรีวิวบ้างแต่คาดว่าไม่เยอะเหมือนประเด็นทั้ง 2 ข้อนี้ที่ผมให้น้ำหนักมากในการรีวิวครั้งนี้นะครับ
.
และต้องบอกอีกอย่างนึง ด้วยผมอ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ต่อจาก จอมมารนักเศรษฐศาสตร์ และผมชอบเวอร์ชั่นนั้นมากๆ ทำให้การหยิบจับเวอร์ชั่นของ MAOYU นี้สำหรับผมมันมีตัวเปรียบเทียบให้เห็นแล้ว ทำให้ในใจผมมีภาพจากเวอร์ชั่น จอมมาร เป็นธงปักไว้ อาจจะทำให้ผมรีวิวแล้วดูเหมือนให้น้ำหนักไปทางเวอร์ชั่น จอมมาร ด้วยความชอบของผม ทำให้อาจไม่ตรงใจกับบางท่านที่เริ่มหรืออ่าน MAOYU มาก่อน ก็ต้องขอโทษเอาไว้ ณ ตรงนี้นะครับ
.
สิ่งที่ผมเห็นเหมือนกันเลยก็คือเนื้อเรื่องครับ เนื้อเรื่องในเวอร์ชั่นนี้เหมือนกับอีกพิมพ์นึงครับ คือไม่ได้มีการตีความให้มันแตกต่าง น่าจะนำมาเขียนโดยเคารพต้นฉบับเหมือนกันทั้ง 2 พิมพ์ คราวนี้เรามาดูที่รายละเอียดอีกทีครับ โดยเรื่องแรกที่จะพูดถึงคือเรื่องงานดวาด วิธีนำเสนอ ของพิมพ์นี้ครับ
ความรู้สึกส่วนตัว
.
ถ้าถามผมว่าเวอร์ชั่นพิมพ์ จอมมาร นั้นมีการนำเสนอผ่านภาพและการเล่าเรื่องอย่างไร ต้องบอกว่า พิมพ์จอมมาร ใช้วิธีเล่าผ่านภาพอย่างตรงๆครับ คือใช้การแบ่งช่องและสื่อสารทุกรายละเอียดผ่านตัวภาพที่วาดออกมาครับ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดแบบไหน เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ดีเทล์หรือหลักการต่างๆ จะใช้ตัวละครเล่าหมด นั่นทำให้เวอร์ชั่นจอมมาร นั้นช่องค่อนข้างถี่ แต่ก็ไม่ได้รกนะครับ เพียงแต่เห็นว่าแบ่งช่องหลายช่องต่อหน้ามากกว่าปกติทั่วไปนิดหน่อย และอีกอย่างคืออธิบายทุกรายละเอียดผ่านทุกช่องที่แบ่งนั้นครับ ทำให้เนื้อหามันเยอะและแทรกไปทุกตัวละคร มีการพูดคุยอธิบายที่เราอ่านตามภาพไปได้เลย ถ้าเราอ่านตรงช่องนั้นไปเรื่อยๆ เราจะลำดับเหตุการณ์ได้ตามที่เนื้อเรื่องต้องการครับ นั่นทำให้ดูเวอร์ชั่น จอมมาร ค่อนข้างเต็ม และตัวอักษรเยอะนั่นเองครับ
.
แต่พิมพ์ MAOYU ใช้วิธีที่ต่างกันครับ จะเรียกว่าตรงกันข้ามเลยก็ว่าได้ เพราะเวอร์ชั่นนี้ใช้การวาดแบบเคลียร์ๆ พยายามไม่ให้ตัวอักษรมันมากเกินไปในแต่ละช่อง การแบ่งช่องก็ปกติครับ ตัวละครจะพูดหรือบอกกล่าวอธิบายอะไรก็จะเน้นที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อ หรือลายละเอียดก็ตาม อย่างนั้น เวอร์ชั่นนี้ เนื้อหาอ่านแล้วจะเท่าอีกเวอร์ชั่นนึงเหรอ ในเมื่อเขาใส่รายละเอียดมาให้ตัวละครพูดน้อยกว่าอีกเวอร์ชั่นนึง ก็ต้องบอกว่าพิมพ์นี้ใช้วิธี เปิดอีกหน้านึงเพื่ออธิบายเป็นอักษร์ล้วนๆให้เลยครับ คือจบตอนๆนั้น ก็จะมีอีกหน้า สองหน้าที่อธิบายวิธี สถานการณ์ หรืออ้างอิง เหตุการณ์การเพิ่มเติมเลยครับ ซึ่งมันแตกต่างจากพิมพ์ จอมมาร อย่างเห็นได้ชัดมากครับ
.
ในขณะที่ลายเส้นต้องบอกว่ามันดูเคลียร์อย่างที่บอกจริงๆครับ ลายเส้นของ อ. Yo Asami มีความคลีนของภาพ ลายเส้นดูและอ่านง่ายครับ ไม่เน้นลงลายละเอียดในตัวละครพวกเส้นเงามากนัก เป็นขั้วตรงข้ามกับพิมพ์ จอมมาร เลยครับ ในขณะเดียวกันผมว่า พิมพ์นี้มีความเป็นการ์ตูนน้อยกว่า พิมพ์จอมมาร คือภาพมันสื่อสารความเรียลมากกว่า พิมพ์ จอมมาร อันนี้ผมหมายถึง พิมพ์จอมมารจะมีความสนุกและความเป็นการ์ตูนที่สื่อสารออกมาชัดเจนผ่านตัวละครมากๆ คือตลกก็วาดตลกให้เห็นมากๆ อารมณ์ไหนๆ ก็จะวาดให้มันดูเวอร์กว่าจริงๆ ทำให้เวลาเราอ่านผมว่ามันเข้าและบิ้วอารมณ์ให้ตามไปมากกว่า เวอร์ชั่นของ MAOYU ครับ เพราะพิมพ์นี้เน้นเคลียร์ ไม่รกเป็นหลักครับ โดยส่วนตัวผมชอบการนำเสนอของพิมพ์จอมมารมากกว่าเพราะมันอ่านสนุก เนื้อหาแม้จะเยอะ ช่องเยอะกว่า แต่พอสื่อสารผ่านตัวละครตัวนั้นๆ ตอนนั้นๆ เลย มันต่อเนื่องมากกว่าครับ ใช้เวลาทำความเข้าใจได้เลยตอนนั้น โดยมีลายเส้นตัวละคร ช่วยให้เราสนุกและดูสีหน้าตัวละครแล้วเข้าใจมากและง่ายกว่า แต่ในเวอร์ชั่นนี้ พอแยกเอาเนื้อหา กับ ภาพแยกกันไปเลย ทำให้มันดูขาดช่วงครับ จุดที่เราสงสัย เราต้องไปอ่านตอนจบในหน้าสรุป ซึ่งหลายครั้งประเด็นที่สงสัยมันอยู่ตรงหน้าแรกๆของตอนกว่าเราจะอ่านจบแล้วไปดูภาพผนวก ตรงนั้นมันทำให้อารมณ์และความสงสัย ความไม่เข้าใจ ผมเยอะเกินไป ขาดความต่อเนื่องมากครับ โดยส่วนตัวผมจึงชอบทั้งภาพและการนำเสนอเรื่องราวเนื้อหา แบบพิมพ์จอมมารมากกว่า แน่น สนุก โดยใจผมครับ
.
คราวนี้มาดูถึงเนื้อหากันบ้างครับ ตามที่บอกไว้ข้างต้น ที่ผมอ่านพิมพ์นี้ก็เพราะพิมพ์นี้เป็นพิมพ์เดียวที่ออกจนครบจบในเมืองไทยครับ ทำให้ผมที่ชอบเรื่องนี้มาจากพิมพ์จอมมาร ต้องหามาอ่านว่า สรุปบทท้ายเรื่องราวจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าเทียบเนื้อหากันระหว่าง พิมพ์จอมมารกับ พิมพ์นี้ พิมพ์จอมมารที่ออกถึงเล่ม 7 เนื้อหาจะเท่ากับเล่ม 6 ในพิมพ์ MAOYU นี้ครับ ซึ่งต้องบอกว่าเนื้อหาที่เพิ่มเติมมาอยู่ในเวอร์ชั่นนี้ ผม..ซึ่งไม่เคยอ่านเวอร์ชั่นนิยายของเรื่องนี้ เลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเนื้อหาในนิยายนั้นจบอย่างเวอร์ชั่นการ์ตูนเวอร์ชั่นนี้หรือเปล่า เพราะตอนจบของเรื่องนี้ในพิมพ์นี้มันออกมาได้เหมือนตัดจบมากครับ ถ้าได้อ่านจะรู้ว่าเนื้อเรื่องยังไปต่อกว่านี้อีกยาวแน่ๆ และที่ตัดจบไม่ใช่ว่าไม่สนุกนะครับ กำลังสนุกเลย ซึ่งผมไม่คาดคิดเลยว่าเนื้อเรื่องจะปูต่อถึงแบบนี้ จากเดิมที่เห็นว่าทางมันมาในฝั่ง จอมมารผู้กล้า และเมืองทางใต้แล้ว และเมื่อจบศึกกับปีศาจเสร็จทุกอย่างน่าจะเข้าทาง เพราะสงครามทางการค้า และค่าเงินของฝั่งส่วนกลางถูกฝั่งพ่อค้าสะกัดแผนการ ทำให้ส่วนกลางและศาสนจักรดูท่าจะไม่ไหว แต่ที่ไหนได้ เพราะการมาของบางสิ่ง ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปหมด ความได้เปรียบที่คิดว่าเข้าทางของฝั่งพระเอกกลับกลายเป็นมีความเป็นไปได้สูงว่าจะสู้กับส่วนกลางของจักรวรรดิ์และศาสนจักรไม่ไหว ทั้งๆที่เรื่องจะไปต่อได้อีกยาว ทางพิมพ์นี้ก็ตัดจบซะอย่างนั้นเลย นั่นทำให้ผมสงสัยมากว่า สรุปในฝั่งนิยายมันจบแค่นี้จริงๆ หรือว่าพิมพ์นี้ตัดจบแบบนี้ ถ้าให้ผมเดาในนิยายน่าจะไปต่อ แต่พิมพ์นี้ผู้วาดเลือกจะจบไปแค่นี้ครับ ซึ่งน่าเสียดายเอามากๆ อยากรู้ต่อเลยว่าจะจบอย่างไร แม้จะรู้ว่าผู้กล้ากับจอมมารจะชนะนะแหล่ะ แต่ด้วยเรื่องนี้หยิบยกเรื่อง เศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง เข้ามาเป็นส่วนร่วมอย่างมาก เลยอยากรู้ว่า มังงะที่มีเนื้อหาอิงกับหลักวิชาการและเศรษฐกิจ ที่มีผู้กล้าและจอมมารขับเคลื่อนจะจบได้แบบไหนครับ น่าเสียดายจริงๆครับ
.
“MAOYU จอมมารจับคู่ผู้กล้ากู้โลก” พิมพ์นี้ ภาพ โดย อ. Yo Asami เรื่อง โดย อ.Mamare Touno ออกแบบตัวละครโดย Keinojo – Mizutama,toi8 โดยในไทย จุดจำหน่ายโดย สนพ Dexpress ครับ โดยมีทั้งหมด 8 เล่มจบ ด้วยรูปเล่มที่มีขนาดใหญ่ราวๆ Bigbook ในราคาปกติครับ ตอนนี้ยังหาซื้อได้ครบอยู่นะครับ
.
กล่าวโดยสรุป โดยมุมมองและความชอบของผม ผมชอบพิมพ์ จอมมาร ของ Siam inter มากกว่าครับ พิมพ์นั้นผมว่าครบถ้วนทั้งงานภาพและการนำเสนอ แม้ตัวหนังสือจะเยอะเพราะใช้ตัวการ์ตูนเล่าเรื่องโดยตรงเลย แต่ยอมรับว่าอ่านสนุกทุกหน้าครับ แต่เวอร์ชั่นนี้มีข้อดีคือ ภาพเคลียร์ อ่านง่าย ดูไม่ยุ่งดีครับ และเนื้อหามีมากกว่าเวอร์ชั่นจอมมาร นั่นก็ทำให้พิมพ์นี้มีค่าพอที่จะซื้อมาอ่านนะครับ โดยส่วนตัวซื้อทั้งสองพิมพ์เลยครับ พิมพ์จอมมารก็เห็นมือสองหรือมือหนึ่งแต้มแดงลดราคาอยู่บ้าง พิมพ์ MAOYU ก็สั่งทางเวปมือหนึ่งได้อยู่ เพราะฉะนั้นหาซื้อเลยครับ เนื้อเรื่องดีมาก ไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้จริงๆครับ ดูการ์ตูนออนไลน์ ดูการ์ตูน
.
ภาพ 7.8/10
เรื่อง 9/10