รีวิว Black Clover
วันนี้ผมก็ได้ไปเจอกับการ์ตูนเรื่องนึงใน NETFLIX ซึ่งแว่บแรกที่เห็นก็รู้สึกว่ามันคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน พอลองนึกดี ๆ อ๋อ!! นี่มัน 1 ในตัวละครจากเกม JUMPFORCE ที่ผมไม่รู้จักนี่นา ซึ่งมารู้ทีหลังว่าการ์ตูนเรื่องนี้ชื่อว่า “Black clover” (ฮา) เพราะฉะนั้นนี่ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผมจะลองรู้จักกับการ์ตูนเรื่องนี้ดู ซึ่งพอดูจบก็ต้องขอมาเขียนรีวิวความรู้สึกให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันหน่อยล่ะงานนี้!! ดูการ์ตูนออนไลน์ ดูการ์ตูน
อัสต้า – เด็กหนุ่มผมสีโทนบลอนด์ ผู้รักในความเที่ยงธรรม มีความฝันสูงสุดคือเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ แต่ทว่าตัวเค้านั้นไม่สามารถใช้พลังเวทได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ยูโน – เด็กกำพร้าที่โตมาพร้อมกับอัสต้า แต่ทว่าความสามารถด้านพลังเวทต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเค้าได้รับเลือกจากกรีมัวร์ของอดีตจักรพรรดิเวทในตอนที่อายุ 15 ปี
อัสต้า และ ยูโน เด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งไว้กับโบสถ์ของอาณาจักรโคลเวอร์ โดยทั้ง 2 คนโตมาด้วยเป้าหมายเดียวกันนั่นก็คือการที่จะได้เป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ (ผู้ยืนอยู่จุดสูงสุดของผู้ใช้เวท) แต่ทั้ง 2 กลับมีความต่างกันโดยสิ้นเชิงโดยที่ ยูโน สามารถใช้ พลังเวทได้อย่างทรงพลัง ส่วน อัสต้า นั้นไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่เค้าก็ไม่หมดหวังหมั่นฝึกฝนร่างกายเป็นประจำ เพื่อที่อายุ 15 เค้าจะได้มีโอกาสรับ กรีมัวร์ คัมภีร์ที่จะดึงเอาศักยภาพของผู้ใช้เวทนั้น ๆ ออกมาได้ แต่พอถึงเวลา
จริงเค้ากลับไม่ถูกรับเลือกโดยกรีมัวร์ ต่างจาก ยูโน ที่ได้กรีมัวร์ใบโครเวอร์ 4 แฉก ที่เป็นของอดีตจักรพรรดิเวทรุ่นก่อน แต่ทว่าเมื่อถึงคราวคับขันชีวิตของอัสต้ากำลังตกอยู่ในอันตรายจู่ ๆ ก็มี กรีมัวร์ใบโครเวอร์ 5 แฉก ปรากฏออกมาพร้อมกับดาบสีดำอันใหญ่เท่าคน ซึ่งโครเวอร์ใบที่ 5 นั้นหมายถึงปิศาจนั่นเอง!!! และแล้วเรื่องราวการผจญภัยเพื่อเป็นจักพรรดิเวทมนตร์ของ อัสต้า และ ยูโน ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
พอดูการ์ตูนเรื่องนี้จบผมก็นึกย้อนกลับไปถามตัวเองว่าทำไมผมถึงชอบดูวันพีช นารูโตะ หรือดราก้อนบอล มันคือสูตรสำเร็จการ์ตูนแนว JUMP สมัยก่อน ที่จะให้คนดูได้เติบโตไปพร้อมกับตัวละครเอกที่เป็นเด็ก คอยอยู่เป็นเพื่อนหมอนี่ คอยเอาใจช่วยให้ฝีมือมันเทพขึ้นสักที อยากเห็นสกิลใหม่ ๆ ของตัวเอก ด้วยภาพและกราฟฟิกของตัวอนิเมะไม่ได้ทำออกมาดูยากมาก และกราฟฟิกเองก็ไม่ขี้เหร่ การอนิเมทก็ดูลื่นไหลสบายตา เสียงพากย์ก็ทำออกมาได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ถือเป็นมาตรฐานของอนิเมะสมัยนี้อยู่แล้ว แค่ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ก็ถือว่าใช้ได้
แต่ถึงอย่างนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็มีข้อเสียที่ไปติดอยู่ตรงการเล่าเรื่องที่เชื่องช้าจนทำเอาเราดูไปง่วงไปหลายต่อหลายตอน การต่อสู้หรือฉากแอ็กชันเองถึงจะทำกราฟฟิกออกมาได้สวย แต่ก็ไม่ค่อยสะใจหรือมันเท่าที่คิด ออกจะจำเจซะด้วยซ้ำ อารมณ์แบบตัวร้ายปล่อยพลังใส่พระเอกจนเสียท่า แล้วก็พูดจาเหยียดหยามพระเอก พระเอกของขึ้นควักดาบฟันจบ
ตัวร้ายในเรื่องนี้ก็ถือว่าขาดเสน่ห์อย่างแรง ดูจบแล้วทิ้งไว้สักอาทิตย์นึงคุณอาจจะลืมหน้าตามันไปเลยก็ได้ (ฮา) ตัวเนื้อเรื่องเองก็เดาง่าย คือสกิลพระเอกในเรื่องนี้โกงมาก เวลาที่พระเอกเจอเรื่องที่คับขันกำลังแย่ก็จะต้องมีเหตุการณ์ให้ได้พลังใหม่ ไม่ก็ต้องมีพวกพ้องมาช่วยให้รอดพ้นตลอด ซึ่งจะอยู่ลูปนี้ไปสักพักใหญ่ ๆ เลย
เรื่องย่อ รีวิว Black Clover
เสียงพากย์เองก็แอบเป็นปัญหาอยู่เล็ก ๆ เสียงของ อัสต้า ซึ่งเป็นตัวละครที่ชอบแหกปาก บวกกับเสียงที่แหลมเวลาดูใส่หูฟังไปนาน ๆ เข้าอาจทำให้คุณรำคาญหรือไม่ก็ปวดแก้วหูได้ ผมคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันไม่ค่อยเหมาะกับวัยรุ่นที่ชอบเสพเนื้อเรื่องที่เข้มข้น มีหักมุมไปมา หรือฉากที่รุนแรงเพื่อความมันสะใจเล็ก ๆ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง มีศัตรูลูกกระจ๊อกอ่อน ๆ โผล่มาสู้กับพระเอกเพื่อที่พระเอกจะได้เติบโตและเก่ง
ขึ้นก่อนจะไปตบลาสบอส การ์ตูนเรื่องนี้ผมเชื่อเลยว่าหากดูตอนอยู่มัธยมต้นมันคงจะสนุกมากแน่ ๆ เพราะฉะนั้นหากมีลูกมีหลานการจะเปิดการ์ตูนเรื่องนี้ให้ดูก็เป็นความคิดที่เข้าท่ามาก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่ได้เห็นตัวการ์ตูนแบกดาบใหญ่อันเท่าคนสู้กับศัตรูคงจะให้ความรู้สึกเท่มากน่าดู (ฮา)
สิ่งที่ทำให้แบล็คโคลเวอร์กระแสไม่ดีเท่าที่ควร เป็นเพราะพล็อตเรื่องเริ่มต้นดูเหมือนการ์ตูนยุค 90 มาก เช่น พระเอกใช้เวทไม่ได้ ตั้งเป้าหมายสูงเกินจริง มีคู่แข่งมีพรสวรรค์ ได้อยู่ในหน่วยกระทิงดำที่มีแต่คนนิสัยแปลก ฯลฯ ทำให้คนที่เคยดูแนวนี้มาก่อน จะคิดว่าเหมือนกับการ์ตูนเก่าที่เคยดู จึงไม่ได้ติดตามทุกสัปดาห์
เหตุผลที่พล็อตแนวยุค 90 ได้รับความนิยมในการนำมาทำการ์ตูนแนวแอ็คชั่น/แฟนตาซี เพราะมีลักษณะของการปูโครงสร้างของโลกที่ซับซ้อน มีสภาพแวดล้อม สังคม วัฒนธรรมเฉพาะตัว แนะนำตัวละครนิสัยแตกต่างกัน ให้คนดูรู้สึกผูกพันกับตัวละครก่อน แล้วจึงค่อยเพิ่มเหตุการณ์สนุก ๆ ที่เชื่อมความสัมพันธ์ของตัวละครเข้าไป เพิ่มความซับซ้อนและเข้มข้นตามลำดับ เมื่อถึงจุดหนึ่ง ความสนุกจะเพิ่มแบบทวีคูณ คนดูจะสนุกกับเนื้อหาที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เหมือนเส้นกราฟที่ชันขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็
ไม่ใช่ว่าการ์ตูนที่ค่อย ๆ ดำเนินเรื่องแบบนี้จะประสบความสำเร็จไปหมดทุกเรื่อง บ่อยครั้งเดินเส้นเรื่องไปผิดทาง โดนตัดจบไปก่อนถึงช่วงสนุก ทำให้เป็นแนวที่เห็นยากมากในปัจจุบัน แบล็คโคลเวอร์เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ผ่านการปูพล็อตช่วงแรกมาได้ และมีความสนุกมากขึ้นในช่วงหลัง การที่ยังผลิตต่อได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งมังงะที่ขายดี และอนิเมะที่ฉายมา 3 ปีไม่หยุด น่าจะเป็นสิ่งที่การันตีได้เป็นอย่างดีว่า การ์ตูนเรื่องนี้คุ้มค่าที่จะติดตาม
ความจริงมังงะแนวนี้ในญี่ปุ่นมีให้เลือกอ่านเป็นร้อยเรื่อง แต่ที่ปังจริง ๆ จนได้ผลิตเป็นอนิเมะมีแบบนับนิ้วได้ ยิ่งถ้านับแนวที่สู้กันด้วยพลังเวทมนตร์ ยิ่งเห็นได้ไม่บ่อยนักในยุคนี้ ถ้าดูการ์ตูน Black Clover ไปหลายๆ ตอน จะเห็นความแตกต่างของวิธีการดำเนินเรื่องที่ไม่ค่อยเหมือนเรื่องอื่น สมดุลระหว่างเนื้อเรื่อง ฉากต่อสู้ บทบาทตัวละครหลัก ตัวละครรอง ความขัดแย้งระหว่างชนชั้น สงครามที่เกิดบ่อยครั้ง พร้อมกับศัตรูใหม่ที่
ปรากฎตัวเรื่อย ๆ ผสมออกมาได้อย่างลงตัว ปริศนาที่ไม่กล่าวถึงในต้นเรื่องจะค่อยเผยทีละนิด จนคุณเข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น ผสมผสานกับฉากสู้ด้วยเวทมนตร์สุดมันส์ ถึงแอสต้าจะเป็นตัวละครที่ดู โวยวายเป็นหลัก ทำตัวไร้เหตุผล เพ้อฝันอยากเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ทั้งที่ใช้เวทไม่เป็น ทำตัวซื่อ ๆ เรียกได้ว่านิสัยไม่ต่างจากพระเอกการ์ตูนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ทำให้หลายคนรู้สึกหงุดหงิดไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม หลังดูไปสักพัก
รีวิว Black Clover
คุณจะเริ่มชินกับนิสัยของพระเอก ได้เห็นการผ่านอุปสรรค ช่วยเหลือผู้คน และได้พบกับโลกความเป็นจริงที่โหดร้ายกว่าช่วงแรก คุณจะเริ่มชอบตัวละครมากขึ้นเป็นลำดับ ตัวละครเติบโตได้อย่างน่าติดตาม ทั้งด้านความรู้สึกและฝีมือ ในที่สุดคุณอาจจะชอบแอสต้ามากขึ้นก็ได้
ตัวละครที่มีบทในเรื่องเยอะมาก แค่หน่วยกระทิงดำก็หลักสิบคนแล้ว ยังมีหน่วยอื่น ๆ ตัวละครใหม่ และ พวกผู้ร้ายอีกมากมาย จนจำชื่อกันไม่หวาดไม่ไหว แต่ในความเป็นจริง นิสัยตัวละครทุกตัวมีเอกลักษณ์ จดจำได้ไม่ยาก และมีความสัมพันธ์ที่น่าสนใจมาก พร้อมพลังแฝงที่คุณอาจคาดไม่ถึง ทำให้สนุกไปกับบทของตัวละครรองที่สอดแทรกเข้ามาในเรื่องเรื่อย ๆ
สิ่งที่สำคัญสุดของแนวต่อสู้/ผจญภัย ก็คงจะต้องเป็นเรื่องฉากต่อสู้ ซึ่งแบล็คโคลเวอร์ทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะแบบแอนิเมชันภาพเคลื่อนไหว ซึ่งสื่อให้เห็นภาพได้ดีกว่าฉบับมังงะ แม้ว่าในตอนแรก ๆ จะยังไม่ค่อยมีฉากสู้ แต่ถ้าดูการ์ตูน Black Cloverไปสักพัก จะเริ่มเห็นฉากสุดมันส์ออกมาเรื่อย ๆ และ จะได้เห็นบ่อยขึ้นในช่วงตอนที่ 20 ขึ้นไป แถมจะสนุกยิ่งขึ้นไปอีกหลังตัวละครมีการพัฒนาจากเดิม มีเวท และ ความสามารถใหม่ พร้อมศัตรูคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
อีกจุดที่ทำให้น่าสนใจ คือ การต่อสู้เป็นแนวเวทมนตร์ แฟนตาซี ที่มีการพลิกแพลงตามสถานการณ์ ต่างจากแนวสู้ด้วยพลังพิเศษที่เห็นกันบ่อย ๆ ซึ่งช่วงแรกยังดูไม่ซับซ้อน แต่จะเริ่มอลังการงานสร้างขึ้นในตอนหลัง ๆ ยิ่งเป็นอนิเมชั่นภาพเคลื่อนไหว มีสีสัน มีเสียงพากย์ไทยประกอบ ทำให้รู้สึกเร้าใจกับเนื้อหามากขึ้น
ถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าควรติดตามมังงะหรืออนิเมะดี? เรื่องความอาร์ตของภาพ มังงะอาจทำได้ดีกว่า แต่อนิเมะเองก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่แย่ (เมื่อเทียบกับอนิเมะที่ฉายหลักร้อยตอนเหมือนกัน) และ ดำเนินเรื่องได้เร็ว จนไล่ตามมังงะได้ทันอย่างรวดเร็ว ทั้งยังได้ดูแบบภาพเคลื่อนไหว มีเสียงประกอบ มีการเติมรายละเอียดที่ไม่มีในมังงะเข้ามาบ้าง รีวิวอนิเมะ