รีวิว Ride Your Wave

มินาโตะ และ ฮินาโกะ คือหนุ่มสาวที่พบรักกันแบบเรื่องราวบอยมีตเกิร์ล ในดินแดนแห่งสายลมเสียงคลื่นและกระดานโต้คลื่นที่นำพาทั้งสองมาพบกัน เรื่องราวของคู่รักที่ผูกพันด้วยพรหมลิขิตนี้กลับพลิกผันอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อมินาโตะจากไปอย่างกะทันหัน ฮินาโกะผู้ตกอยู่ท่ามกลางความเสียใจก็ได้พบในวันหนึ่งว่าสัญญาที่มินาโตะให้ไว้ว่าจะคอยมาช่วยฮินาโกะอยู่เคียงข้างกันเสมอจนแก่เฒ่านั้น เขายังคงรักษาไว้แม้จะเหลือเพียงภาพวิญญาณที่ปรากฏตัวได้ในน้ำเท่านั้น

 

Ride Your Wave (Kimi to, nami ni noretara,きみと、波にのれたら) เป็นแอนิเมชันจากญี่ปุ่นที่การันตีคุณภาพด้วยรางวัล แอนิเมชันยอดเยี่ยม จาก Shanghai International Film Festival และรางวัลซาโตชิ คงสำหรับหนังแอนิเมชัน ยอดเยี่ยม จากเวที Fantasia International Film Festival โดยเป็นผลงานการกำกับของ ยูอาสะ มาซาอากิ (Yuasa Masaaki) ที่เคยมีหนังแอนิเมชันเข้าฉายในเทศกาลหนังญี่ปุ่นที่จัดในไทยมาแล้วอย่าง Lu over the Wall (2017) ซึ่งก็เป็น

 

รีวิว Ride Your Wave

 

ผลงานเน้นลายเส้นแปลกตา โดยเป็นการร่วมมือกับมือเขียนบทคู่บุญที่ร่วมงานมาจนถึงเรื่องล่าสุด อย่าง โยชิดะ เรโกะ (Yoshida Reiko) ผู้เคยเขียนบทให้หนังจิบลิอย่าง The Cat Returns เจ้าแมวยอดนักสืบ (2002) และแอนิเมชันรักเรียกน้ำตาที่ดังในบ้านเราเหมือนกันอย่าง A Silent Voice รักไร้เสียง (2016) ซึ่งใน Ride Your Wave นี้เราจะเห็นพัฒนาการต่อยอดด้านเทคนิคแอนิเมชันภาพ 2D ผสมผสาน 3D ที่ยกระดับขึ้นจากครั้ง Lu over the Wall ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นของคนและการเคลื่อนไหวที่ละมุนขึ้น คุณภาพงานภาพสูงขึ้น และมีเอกลักษณ์ ดูการ์ตูนออนไลน์ ดูการ์ตูน

 

เฉพาะตัวมากขึ้นไปอีก โดยผสมผสานแนวการ์ตูนตาหวานกับแอนิเมชันอินดี้ลูกผสมได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะมีความสอดคล้องด้านเทคนิคและเนื้อหาอย่างละเมียดละไม ด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับน้ำเป็นสำคัญ การออกแบบลายเส้นทั้งคนและสิ่งต่างๆ จะได้อิมเมจของการเคลื่อนที่แบบน้ำไว้ในตัว ทั้งการที่เน้นเส้นโค้งมน การเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนท่าละมุนดั่งหยดน้ำ ยิ่งเมื่อเป็นฉากที่มีน้ำด้วยแล้วยิ่งพิถีพิถันเป็นการใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิก 3 มิติเข้ามาช่วยได้อย่างลงตัวแนบเนียนไม่ขัดตาเลย จริง

 

รีวิว Ride Your Wave

 

ๆ จะบอกว่ารางวัลทั้งหมดทั้งมวลที่แอนิเมชันเรื่องนี้ได้รับ ต้องยกเครดิตมากกว่า 70%-80% ให้กับ งานภาพ ของหนังจริง ๆ เป็นศิลป์สมัยใหม่ที่น่าศึกษาแนวคิดการสร้างตลอดจนกระบวนการต่อยอดพัฒนาคอนเซ็ปต์จนได้หนังที่มีน้ำเป็นธีมได้โดดเด่นจริง ๆ งานภาพสะกดอยู่ได้ตลอด 97 นาทีของหนังตัวจริงเลย มาด้านเนื้อเรื่อง ต้องบอกว่าคุณเรโกะผู้เขียนเรื่องออริจินัลนี้ ได้ใช้โครงสร้างหนังญี่ปุ่นตามสูตรมาเลย ทั้งความหวานความน่ารักในการพานพบกัน การจากลาอย่างไม่ทันตั้งตัว ตลอดจนฉากการขยี้ที่เก็บงำไว้รอการฮุกอัดต่อมน้ำตาคนดูในตอนท้าย

 

แบบสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ทรงพลัง ซึ่งที่ต้องชมเชยเลยคือฉากท้าย ๆ นี่ล่ะครับ คุณเรโกะจงใจบิดลำดับอารมณ์โดยสับฉากที่เราคิดว่าควรจะเป็น มาหลอกคนดูที่เคยดูจากตัวอย่างมาได้จุกอกแบบไม่รู้ตัวเลย ยอมรับล่ะว่ามุกในหนังที่คอยเฉลยคอยชกเก็บคะแนนจากคนดูเนี่ย มันเดาได้และซ้ำซากมาก ๆ แต่ความฉลาดในการบิดลำดับง่าย ๆ แค่ฉากเดียว ก็ทำเราจุกซึ้งได้มากทีเดียว ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ลองไปชมครับว่าฉากวันคริสต์มาสท้ายเรื่อง เล่นงานเราได้อย่างไร ก็เป็นอีกกรณีศึกษาสำหรับคน

 

รีวิว Ride Your Wave

 

ชอบเขียนเล่าเรื่องเหมือนกันว่า บางทีการบิดสูตรสำเร็จนิดเดียวมันก็กลายเป็นงานพิเศษได้เหมือนกันนะ และอีกอย่างที่ทำได้ดีคือการเก็บรายละเอียดเพื่อนำมาสานต่อในบทสนทนาและเนื้อเรื่อง อย่างชื่อเรื่อง Ride Your Wave มันถูกตีความหมายคำว่าคลื่นไว้อย่างหลากหลาย ไม่ใช่เพียงคลื่นในทะเล แต่ยังหมายถึงอุปสรรค ความกลัว ตลอดจนโอกาสการพานพบ และการเริ่มต้นใหม่ด้วย น่าสนใจเลยล่ะ

เรื่องย่อ รีวิว Ride Your Wave

มาถึงส่วนสุดท้าย คืองานพากย์และเพลงประกอบ ปกติผมไม่ค่อยมีคอมเมนต์พิเศษอะไรกับงานพากย์เพราะญี่ปุ่นมักทำได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่มาครั้งนี้ต้องชมเป็นพิเศษกับหนังเรื่องนี้ล่ะว่า ออกแบบความเป็นธรรมชาติได้น่าขนลุกมาก โดยต้องยกเคมีความลงตัวให้คู่ที่พากย์เสียงพระ-นางอย่าง คาตาโยเสะ เรียวตะ ที่พากย์เป็น มินาโตะ และ คาวาเอย์ รินะ ที่พากย์เป็น ฮินาโกะ โดยฉากที่อยากให้ไปลองดูคือฉากที่ทั้งสองตัวละครร้องเพลงหยอกล้อกันไป โดยมีฉากหลังเป็นภาพทรงจำที่ทั้งคู่ทำ

 

ร่วมกัน มันไม่ใช่แค่เนี้ยบ แต่มันคือการจงใจไม่สมบูรณ์แบบเพื่อเลียนแบบความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่งมาก ๆ ทั้งการหลุดหัวเราะ การกระเซ้าหยอกเย้าระหว่างร้องเพลง เจ๋งมาก ๆ เลยล่ะนะ ซึ่งเพลงประกอบเรื่องนี้ก็ใช้เพลงธีมหลักเพลงเดียวได้ทั้งอารมณ์หนังและบอกเล่าเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องด้วย เพราะวิญญาณพระเอกจะปรากฏก็ต่อเมื่อนางเอกร้องเพลงนี้เท่านั้น โดยได้เพลง Brand New Story ของวง Generations from Exile Tribe มาทำหน้าที่นี้ ก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะ

 

 

ต้องบอกว่าถ้ามองฉาบฉวยหนังเรื่องนี้อาจไม่เตะตา เป็นหนักรักญี่ปุ่นลอกสูตรมาอีกเรื่อง แต่ถ้ามองรายละเอียดงานสร้างจุดต่าง ๆ ต้องบอกว่าสมควรแล้วล่ะที่ได้รางวัลแอนิเมชันยอดเยี่ยม เพราะเทคนิคศิลปะมันคือเนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้จริง ๆ Ride Your Wave เป็นเรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่ฝ่ายชายได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่เมื่อฝ่ายหญิงร้องเพลงที่เป็นที่โปรดปรานของทั้งคู่ ฝ่ายชายก็จะปรากฏตัวออกมาให้เธอเห็นในน้ำ จึงทำให้เกิดเป็นความรักระหว่าง 2 โลกขึ้น

 

หนังมีเนื้อเรื่องวัตถุดิบพล็อตตั้งต้นที่น่าสนใจมาก มันจึงดึงดูดให้เราเข้าไปดู ไม่ว่าจะเป็นทำไมพระเอกถึงตาย? ทำไมนางเอกถึงเรียกหาพระเอกได้? เป้าหมายคืออะไร? รักกันยังไง? คำถามน่าสนใจดึงดูดเต็มไปหมด แต่มันดั๊นนำเสนอออกมาได้จืดชืดสุดๆ

 

 

หนังมีการดำเนินเรื่องที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เข้าใจง่ายๆ ดูได้เรื่อยๆ แต่นั่นมันจึงทำให้เราไม่อินกับอะไรของหนังเลยแม้แต่ส่วนเดียว เริ่มตั้งแต่ที่พระนางรักกันละ คือเหตุผลก็พอเข้าใจได้แหละนะ แต่มันไม่อินอะ รวมถึงรุ่นน้องพระเอกที่แบบยิ่งไม่อินเข้าไปใหญ่ แถมหนังยังพาคนดูไปดูความสวีทหวานแหววของคู่พระ-นางที่แบบรู้สึกว่าเสียเวลาโดยใช่เหตุมากๆ รวมไปถึงการที่พระเอกตาย ตัวหนังมันขยี้ให้เราดราม่าไม่ได้เลยจริงๆ คือแบบปุบปับมาก และพอมาเป็นพาร์ทความสัมพันธ์ของสองโลกยิ่งไม่

 

อินหนักเข้าไปอีก คือมันควรเศร้าเสียใจหรือขยี้ให้ดราม่าได้มากกว่านี้มากๆ วัตถุดิบคุณดีขนาดนี้แล้วอะ แต่กลับเล่าแบบหวานแหววโลกสวย เกินไปจนเสียอรรถรสมากจริงๆ และถึงเป็นแบบนั้น มันก็แสดงความน่ารักออกมาได้ไม่ถึงอยู่ดี แถมจุดพีคของ เรื่องก็ทำออกมาได้ไม่ดีอีก ไม่มีความพีคใดๆ ทั้งสิ้น จนกระทั่งจบเรื่องแล้วก็ตาม เงื่อนไข ความน่าสนใจ สิ่งทั้งหมดที่ดึงดูดเราตั้งแต่ต้นตัวอย่างมันกลับหายไปซะอย่างนั้นหลังดูจบ

 

 

มาถึงงานด้านภาพบ้าง งานด้านภาพเหมือนภาพการ์ตูนวาดที่สวยนะ ถ้ามันมาในรูปแบบการ์ตูนทางทีวี แต่พอมันมาอยู่ในโรง มันยังมีบางฉากที่ตัวหนังไม่ได้ใส่ใจมากเท่าที่ควร โดยเฉพาะตัวละคร คือวาดมาแบบลวกๆ ขาดมิติของตัวละคร ซึ่งมันก็น่าหงุดหงิดเหมือนกันนะเวลามาดูในโรงใหญ่ๆ แต่ก็ถือว่าฉาก น้ำ แบ็คกราวยังอยู่ในระดับที่โอเค

รีวิว Ride Your Wave

มาที่เพลงประกอบบ้าง เรื่องที่มาที่ไปที่พระ-นาง ร้องเพลงนี้ร่วมกันทำให้เกิดเป็นสายสัมพันธ์มันก็ช่างแบบ…เอิ่มนะ ส่วนเงื่อนไขในการเรียกพระเอกมาทำไมเป็นเพลงนี้ เราตอบไม่ได้เหมือนกัน มันคงมีเหตุผลแหละ แต่เพลง Brand New Story ถือว่าเป็นเพลงที่เพราะ ฟังเพลินๆ สบายๆ ติดหูอยู่เหมือนกัน เรียกได้ว่าเอามาประกอบฉากพระ-นางสวีทกัน มันคือ MV เพลงนึงเลยเนี่ยแหละ แต่ก็ตลกดีเหมือนกัน เวลาฉากที่ดราม่าๆ แล้วร้องเพลงนี้ออกไป

ขณะที่ฮินาโกะกำลังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถอะไรเลย มินาโตะกลับให้กำลังใจและชื่นชมการเล่นกระดานโต้คลื่นอย่างเก่งกาจ จนมินาโตะได้ขอให้ฮินาโกะสอนเขาเล่นกีฬาดังกล่าวบ้าง สองหนุ่มสาวจึงเหมือนส่วนเติมเต็มของกันและกัน แต่แล้ว เมื่ออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันที่พรากชีวิตของมินาโตะไป การกลับมาของมินาโตะในรูปแบบวิญญาณที่ปรากฏตัวอยู่แค่ในน้ำยามที่มินาโตะร้องเพลงนั้น ตอนแรกจึงคล้ายกับการยึดติดในความทรงจำของฮินาโกะที่เธอรู้สึกขาดหายบางสิ่งบางอย่างในชีวิตไป

 

แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอจึงเริ่มพยายามทำใจและปรับตัวให้ชีวิตของเธอเองเข้ารูปเข้ารอยมากที่สุด จนกระทั่งวันหนึ่งเหตุการณ์ไฟไหม้ตึกครั้งใหญ่ที่เธอแทบจะเอาตัวไม่รอด ทำให้มินาโตะกลับมาช่วยเหลือฮินาโกะเป็นครั้งสุดท้ายและอาจจะหมายถึงการปล่อยวางของตัวฮินาโกะเองด้วย หลังจากความช่วยเหลือ หนังยังได้อธิบายรายละเอียดให้ผู้ชมเข้าใจอีกว่า แท้ที่จริงแล้วพรหมลิขิตของสองพระนางนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ที่มินาโตะยังเป็นเด็ก เขาได้รับการช่วยเหลือจากฮินาโกะระหว่างที่ออกไปเล่นน้ำทะเลและเกิดจมน้ำ จากวันนั้นเอง

 

ที่ทำให้มินาโตะอยากจะเติบโตขึ้นมาและผันตัวเองให้กลายเป็นคนที่จะสามารถช่วยเหลือชีวิตคนอื่นได้ แบบเดียวกับเด็กหญิงที่เคยช่วยเหลือเขาเอาไว้ แม้ทั้งสองจะจดจำช่วงเวลาในวัยเด็กไม่ได้ แต่ความช่วยเหลือครั้งนั้นเองได้เปลี่ยนชีวิตให้คนคนหนึ่งกลายเป็นคนที่เติบโตมาเพื่อหยิบยื่นความโอบอ้อมอารีแก่ผู้อื่นอีกต่อหนึ่ง จะเห็นได้ว่าตลอดทางของ Ride Your Wave อาจจะเป็นแอนิเมชั่นเมโลดราม่าเรียกน้ำตาคนดู แต่สาระในการดำเนินชีวิตที่ถูกแทรกอยู่ตลอดทางของหนัง ได้ทำให้หนังเรื่องนี้มีคุณค่าและไม่ดูไร้เดียงสาเกินไปในสายตาของคนดูวัยผู้ใหญ่เช่นกัน รีวิว อนิเมะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *