รีวิว Steins Gate
Steins Gate ฝ่าวิกฤตพิชิตกาลเวลา รีวิว อนิเมะที่ดัดแปลงจาก Visual Novel ชื่อดัง กลายเป็นสุดยอดอนิเมะไซไฟที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลที่สุดเรื่องหนึ่ง ถ้าใครชอบซีรีส์ Dark ใน Netflix ควรต้องดูเรื่องนี้เลยซึ่งตัวอนิเมะซีรีส์ สไตน์เกท จะมีอยู่ 2 ภาค สามารถรับชมได้ใน Netflix คือ ภาคแรก และ ภาค ซีโร่ และยังมีอีก 1 มูวี่ ที่เป็นบทสรุปของทั้งสองภาครวมกันด้วย (แต่มูวี่ยังไม่เข้า Netflix) ดูการ์ตูนออนไลน์ ดูการ์ตูน
เนื่องจากเรื่องนี้ถูกสร้างมาก่อน Dark ซีรีส์ไซไฟเรื่องดังใน Netflix แล้วก็มีพลอตบางอย่างที่คล้ายกันอยู่ ดังนั้นถ้าใครชอบเรื่องแนว Dark นี่คืออนิเมะไซไฟที่แนะนำว่า ต้องดูครับ แม้จะไม่แน่ชัดว่า Dark ได้รับแรงบันดาลใจหรืออิทธิพลอะไรมาจาก สไตน์เกท บ้างหรือไม่ เพราะนี่ก็เป็นอนิเมะที่ดังในโลกตะวันตกเหมือนกัน หนึ่งในคำถามที่ตอบง่าย แต่ก็ตอบยากคือ เรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร???? เพราะถ้าบอกออกไป มันจะเป็นการสปอยล์เนื้อหาของเรื่องอย่างรุนแรง
อีกทั้งต้องยอมรับว่า หนึ่งในความสุดยอดของอนิเมะเรื่องนี้ที่ทำให้เรื่องราวได้ตราตรึงคนดูทั่วโลกจนถึงขนาดที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดอนิเมะไซไฟทริลเลอร์ที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษจากหลายสำนัก (หรืออาจจะถึงขั้นยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลในแนวไซไฟด้วยซ้ำ) ก็คือเนื้อหาที่คาดเดาไม่ได้ และชวนให้ต้องลุ้นกันตลอดเวลาว่าเรื่องราวจะไปจบลงยังไง
โดยเนื้อหาตอนแรก จะมีการแย้มออกมาว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องของ “เวลา” เพียงแต่เรื่องนี้มีการนำเสนอได้อย่างน่าสนใจ สมจริง แถมยังมีสไตล์ของตัวเองที่ชัดเจนมาก ผสมผสานกับแนวทริลเลอร์ระทึกขวัญ แล้วยังสามารถใส่ความโรมานซ์เข้ามาได้อย่างไม่น่าเชื่อ จุดเด่น ของเรื่อง แทบจะทุกด้าน น่าทึ่งตรงที่ว่าเรื่องนี้เป็นอนิเมะไซไฟ ที่ไม่ได้เน้นฉากแอ็กชั่นอะไรนัก แต่กลับทำออกมาให้เราได้ลุ้นกันแทบจะตลอดเวลา (โดยเฉพาะตั้งแต่ครึ่งหลัง) การเดินเรื่องในครึ่งหลังเรียกว่าเป็นระดับมาสเตอร์พีซในสไตล์ไซไฟท
ริลเลอร์ และที่น่าเหลือเชื่อคือมันเต็มไปด้วยดราม่าปนโรมานซ์ที่สุดจะประทับใจเอามากๆ รวมถึงเคมีระหว่างตัวละครในเรื่องก็ทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะตัวเอก รินทาโร่ และ คุริสึ ที่เมื่อดูจบแล้วคนดูจะหลงรักสองตัวเอกนี้แน่นอนเพียงแต่ข้อด้อยร้ายแรงที่สุดของเรื่องนี้ก็คือ ช่วง 1-4 ตอนแรก มันดูไม่สนุกเท่าไรนัก แม้ว่าจะมีการทิ้งปมน่าสนใจมากๆ เอาไว้ในท้ายก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่าการเดินเรื่องในช่วงแรกนั้นเต็มไปด้วยความ เพ้อเจ้อ ตัวละครเอกอย่างรินทาโร่ที่มีนิสัยสุด
ประหลาด เพ้อเจ้อและพูดมากจนน่ารำคาญ ไม่ใช่พระเอกที่ดูเท่อะไรนัก แถมเซตติ้งของเรื่องก็เต็มไปด้วยตัวละครสไตล์ที่ดูเหมือนทำมาเพื่อสนองนี๊ดให้เหล่าโอตาคุ เรื่องราวเต็มไปด้วยศัพท์แสงของเหล่าโอตาคุ ที่ดูเฉพาะทางเอามากๆดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมหลายคนดรอปเรื่องนี้ในช่วงแรก คือหากคุณไปถามคนที่เคยดูเรื่องนี้มาสัก 100 คน รับรองเลยว่าประมาณ 80-90 คนจะต้องเคยดรอปเรื่องนี้ตั้งแต่ 1-4 ตอนแรกแน่นอน
แต่หากเปิดใจยอมอดทนกับความเพ้อเจ้อของตัวเอกไปสักระยะ เมื่อคุณเริ่มเข้าใจโลกในเรื่อง จากนั้นเมื่อดูไปถึงประมาณตอนที่ 9 เป็นต้นไป หรืออย่างช้าที่สุดคือจนถึงตอนที่ 12 มั่นใจได้เลยว่า ทุกคนที่ดูจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่ออนิเมะเรื่องนี้ไปแบบกลับตาลปัตร
เนื้อเรื่อง รีวิว Steins Gate
เพราะครึ่งหลังของเรื่องนี้ คือ “ของจริง” แล้วเมื่อนั้นก็จะเข้าใจว่า ทำไมครึ่งแรกของเรื่องถึงเดินเรื่องได้ช้า และเต็มไปด้วยอะไรก็ไม่รู้ที่ดูแล้วน่ารำคาญแทรกไว้ตลอด แล้วจะกลายเป็นว่าทุกอย่างที่ปูมาตั้งแต่ฉากแรกสุดของเรื่อง ทุกอย่างล้วนสมเหตุสมผลและมีความเชื่อมโยงกับเรื่องราวทั้งหมจนถึงฉากสุดท้ายที่สามารถสรุปเรื่องราวได้อย่างน่าประทับใจเอามากๆ ชนิดที่ว่าดูจบแล้วหลายคนอาจจะยกให้เรื่องนี้เป็นสุดยอดอนิเมะได้ดวงใจไปเลยก็ได้
ดังนั้น ปัญหาอย่างเดียวของเรื่องนี้เลยอยู่ที่ ช่วงแรกของเรื่อง หากคุณผ่านไปได้ หลังจากนั้นที่คุณจะได้รับชมคือสุดยอดอนิเมะไซไฟที่ดีที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่งของโลกเลย เพราะองค์ประกอบที่เหลือมันสมบูรณ์แบบมาก ไม่ว่าจะเป็น งานภาพ เพลงประกอบ บท ตัวละคร โดยเฉพาะตัวเอกอย่าง รินทาโร่ ที่เปิดเรื่องมาอาจจะดูเป็นตัวละครสุดแสนน่ารำคาญ แต่เมื่อดูจบแล้วคุณอาจจะรักตัวละครนี้ไปเลย
สำหรับแนวเรื่อง ถ้าใครที่เคยดูทั้งเรื่องนี้และดูซีรีส์ Dark ของ Netflix มาแล้ว อาจจะรู้สึกได้ว่า Dark มีพลอตเรื่องบางจุดที่คล้ายกันอยู่ โดยเฉพาะตอนจบซีซัน 2 ที่มีการปูเรื่องราวในซีซัน 3 แล้วพบว่าคล้ายกับ สไตน์เกท เรื่องนี้เอามากๆ โดยเฉพาะในด้านแนวคิดของเรื่อง แต่ก็ถือว่าทั้งสองเรื่องมีความแตกต่างกันพอสมควรอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่า Dark ซึ่งสร้างทีหลังจะลอกเลียนแบบมา เพราะสไตล์ของเรื่อง และแนวคิดเรื่องเวลา มีความแตกต่างในรายละเอียดกันอยู่เหมือนกัน
สรุปภาพรวมแล้ว นี่คือสุดยอดอนิเมะไซไฟในระดับที่ “ต้องดู” สักครั้งในชีวิต ซึ่งสามารถรับชมได้ทั้งสองภาคที่มีใน Netflix คือ Steins Gate และ Steins Gate 0 และยังมีบทสรุปของทั้งสองภาคอีกทีอยู่ในฉบับมูวี่ (ฉบับมูวี่ยังไม่มีใน Netflix) และไม่ใช่ Original Netflix อาจจะไม่ได้อยู่ตลอดต้องรีบดูครับ
สำหรับภาคซีโร่ เป็นส่วนขยายที่ช่วยเติมเต็มทำให้ภาคหลักที่มันสุดยอดอยู่แล้ว ยิ่งสุดยอดอลังการขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่าในแง่ของบทและการเดินเรื่องในภาคซีโร่จะดูดรอปลงจากภาคหลักอยู่บ้าง แต่มันกลับทำถึงมากในแง่ของพัฒนาการตัวละครและการไล่ระดับของเรื่องราวให้ไปสู่ฉากพีคและฉากประทับใจต่างๆ รวมถึงบทสรุปของเรื่องที่ไปเชื่อมโยงกับภาคแรกด้วย แนะนำให้ดูเช่นกัน และจะยิ่งหลงรักเหล่าตัวละครในเรื่องนี้มากขึ้นไป
“จักรวาลนั้น… มีจุดกำเนิดแต่ไม่มีจุดจบ ไร้อาณาเขต ส่วนดาวดวงนั้น… มีจุดกำเนิดช่นกัน แต่มันมีพลังงานทำลายตัวเองอยู่ มีจุดจบ ประวัติสาสตร์ทำให้เราได้รุู้ว่า ผู้มีปัญญาเปี่ยมล้น คือผู้ที่โง่เขลาที่สุด กล่าวคือ นี่เป็นสารเตือนสุดท้ายจากพระผู้เป็นเจ้าที่มอบให้แก่ผู้ที่แข็งขืน” จากหนังสือการ์ตูนชื่อดังโดยผลงานการเขียนของ “Sarachi Yomi” กับเรื่องราวของการเดินทางข้ามการเวลาสุดล้ำของหนุ่มนักประดิษฐ์สติเฟื่องกับเหล่าเพื่อนๆจากห้องวิจัยสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคต
“โอคาเบะ รินทาโร่” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โอคาริน” นักศึกษาหนุ่มนักประดิษฐ์จอมหลุดโลก ผู้ชอบเพ้อเจ้อคิดเองเออเองว่า ตนเองคือนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังถูกตามล่าจากองค์กรลึกลับอยู่เสมอ โดยเขาและเพื่อนอีก 2 คน คือ “ชีนา มายูริ” เด็กสาวแสนน่ารัก ผู้มีเสียงสโลแกนประจำตัวคือ “ตึ๊ดตื่อดือออ…~” และ “ฮาชิดะ ดารุ อิทารุ” หรือ “ดารุ” แฮ็กเกอร์เจ้าเนื้อจอมลามก พวกเขาได้รวมกลุ่มกันและเปิดห้องวิจัยสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคตขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่ฟังเหมือนจะดูดีว่า “เพื่อปฏิรูป
รีวิว Steins Gate
โครงสร้างการปกครองโลก และสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายกับโลกใบนี้” ซึ่งทั้งหมดล้วนมาจากความบ้าในเรื่องราววิทยาศาสตร์เชิงสืบสวนสอบสวนของโอคารินทั้งสิ้น เรื่องราวเริ่มต้นในวันที่โอคารินและมายูริเดินทางไปดูงานสัมนาวิชาการสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งว่าด้วยเรื่อง “Time Machine” ระหว่างนั้นโอคารินได้พบกับเหตุการณ์น่าประหลาดใจถึง 2 เหตุการณ์ด้วยกัน ก็คือ เหตุการณ์การพุ่งชนอาคารของวัตถุที่มีลักษณะ
คล้ายดาวเทียม และการตายของ “มาคิเซะ คุริสุ” เด็กสาวอัจฉริยะที่ก่อนตาย เธออ้างว่าทั้งสองได้พบกันมาก่อนและเขามีเรื่องสำคัญบางอย่างจะต้องบอกกับเธอ จากการตายของเด็กสาวสร้างความตกใจให้กับโอคารินอย่างมาก แต่แล้วหลังจากเขาพยายามส่งอีเมล์เพื่อแจ้งข่าวกับเพื่อนผ่านโทรศัพท์มือถือ เมื่อรู้ตัวอีกที เขาก็พบว่าโลกได้เปลี่ยนแปลงไปต่างจากสิ่งที่เขาจำได้แล้ว
ตัวละคร โอคาเบะ รินทาโร่ (岡部 倫太郎 Okabe Rintarō ) หรือที่รู้จักกันในนาม “โอคาริน” นักศึกษาหนุ่มนักประดิษฐ์สติเฟื้อง จอมหลุดโลก ที่มักคิดเองเออเองว่าตนเองคือนักวิทศาสตร์ที่กำลังปฏิบัติภารกิจลับและกำลังถูกตามล่าจากองค์กรลับ เขาได้รวมกลุ่มกับเพื่อนๆอีก 2 คน คือ “ชีนา มายูริ” และ “ฮาชิดะ ดารุ อิทารุ” เพื่อก่อตั้งกลุ่มวิจัยสิงประดิษฐ์ ภายในห้องเช่าชั้นสองของอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขาเรียกที่นั่นว่า “ห้องวิจัยสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคต” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ก็
เพื่อปฏิรูปโครงสร้างการปกครองโลก ตลอดจนสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่จะก่อนให้เกิดความวุ่นวายกับโลกใบนี้ เขาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยโตเกียว เดนกิ และเป็นผู้มีพลัง Reading Steiner ที่สามารถยังคงความทรงจำในแต่ละWorld Line ได้แม้จะเปลี่ยนไปสู่ World Line อื่นแล้วก็ตาม
มาคิเซะ คุริสุ (牧瀬 紅莉栖 Makise Kurisu) นักศึกษาสาวอัจฉริยะ มีความเชี่ยวชาญเรื่องประสาทวิทยาและภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี เนื่องจากอยู่อเมริกามาตั้งแต่เด็ก และผลงานวิจัยของเธอเคยได้รับการตีพิมพ์มาแล้วในนิตสารวิชาการ เธอเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของห้องวิจัยสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคต ในลำดับที่ 4 หลังจากได้พบกับปฏิกิริยาตกใจของโอคารินที่คิดว่าเธอได้ตายไปแล้ว โอคารินมักตั้งชื่อเรียกอื่นๆเธออยู่บ่อยๆ เช่น “คริสติน่า” หรือ “ยัยซอมบี้” เป็นต้น
ชีนา มายูริ (椎名 まゆり Shiina Mayuri) สาวน้อยน่ารัก ผู้มาพร้อมกับเสียงประจำตัว คือ “ตึ๊ด ตื่อ ดือออ~” สมาชิกหญิงคนแรกของห้องวิจัยสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคต หมายเลขสมาชิก 002 นักตัดชุดคอสเพลย์และทำงานพิเศษเป็นสาวเสิร์ฟอยู่ในร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง
ฮาชิดะ ดารุ อิทารุ (橋田・ダル・至 Hashida “Daru” Itaru)หนุ่มนักศึกษาร่างท้วมจอมลามก แฮ็กเกอร์ประจำห้องวิจัยสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคต เขาเป็นเพื่อนของโอคารินมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย และโอคารินมักเรียกเขาผิดเป็น “แฮ็กก้า” อยู่เสมอ
เฟริสเนี้ยวเนี้ยว (フェイリス・ニャンニャン Feirisu Nyannyan ) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ เฟริสเนี้ยวเนี้ยว (フェイリス・ニャンニャン Feirisu Nyannyan ) เธอเป็นสาวเสิร์ฟขี้อ้อน แสนเจ้าเล่ห์ ประจำร้านน้ำชาเดียวกันกับที่มายูริทำงานพิเศษอยู่ เธอมักเออออตามความเพ้อเจ้อของโอคารินได้ตลอดด้วย
อามาเนะ สุซุฮะ (阿万音 鈴羽 Amane Suzuha) เด็กสาวปริศนา ลูกจ้างคนใหม่ของร้านซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์ที่พวกโอคารินเช้าห้องอยู่ เธอมักรู้เรื่องราวความเป็นไปในห้องวิจัยสิ่งประดิษฐ์ของโอคารินอยู่เสมอ แต่ก็สามารถตีเนียนจนโอคารินจับไม่ได้ ซึ่งความจริงแล้ว เธอคือเด็กสาวแห่งโลกอนาคตที่เดินทางข้ามกาลเวลากลับมาเพื่อช่วยโอคารินตามหาเครื่อง PC รุ่น IBN 5100 และป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 นั่นเอง
คิริว โมเอกะ (桐生 萌郁 Kiryū Moeka ) สาวแว่นปริศนา อายุ 20 ปี ไม่มีงานประจำ ที่กำลังเดินทางเพื่อตามหา PC รุ่น IBN 5100 ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุดแรกๆ ก่อนภาษา Basic (ภาษาคอมพิวเตอร์ในยุคแรก) เธอถนัดการสื่อสารผ่านการพิมพ์ข้อความจากมือถือและไม่ชอบให้มือถืออยู่ห่างจากมือ จนโอคารินให้ฉายาเธอว่า “Shining Finger”
อุรุชิบาระ รูกะ ( 漆原 るか Urushibara Ruka) เด็กหนุ่มที่มีทั้ง รูปร่าง หน้าตา และอุปนิสัยอ่อนหวานเหมือนผู้หญิงทุกอย่าง เขาเป็นลูกชายของศาลเจ้าที่เคยมีคนนำเอาเครื่อง PC รุ่น IBN 5100 มาฝากเพื่อให้เก็บรักษาไว้ เพื่อรอใครคนหนึ่งมานำมันไป ซึ่งเป็นเครื่องเดียวกับที่พวกโอคารินกำลังตามอยู่ รีวิว อนิเมะ
ชื่ออังกฤษ : Steins Gate
ชื่อญี่ปุ่น : シュタインズ・ゲート (Shutainzu gēto)
ชื่อไทย : ฝ่าวิกฤต พิชิตกาลเวลา
ประเภท : นิยายวิทยาศาสตร์,ฆาตกรรม
แนว : วิชวลโนเวล
ผู้กำกับ : Hiroshi Hamasaki, Takuya Sato
บทโทรทัศน์ : Jukki Hanada
ผลิตโดย : ญี่ปุ่น White Fox