รีวิว Initial D Fifth Stage
แม้ว่าเรื่องราวการแข่งขันจะได้ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับ Initial D หรือ ถนนสายนี้ข้าจอง ถือเป็นการ์ตูนที่หลายคนยกให้เป็นอีกเรื่องในดวงใจ จนหลายคนต่างไปหาเจ้าแพนด้า ทรูโน่ หรือ Truneo AE86 เป็นว่าเล่น แล้วตอนที่ถูกสร้างเป็นหนังได้ฉายบ้านเราก็ปลุกกระแสการแข่งขันดริฟท์จนบูมในเวลานั้นเลยทีเดียว
นอกจากการแข่งขันสุดเข้มข้นแล้ว เรื่องราวในการ์ตูนที่มีความเป็นการ์ตูนวัยรุ่นพูดถึงมิตรภาพและความรักที่ทำให้เป็นที่จดจำจนถึงปัจจุบัน นี่คือ 10 ฉากที่น่าจดจำของการ์ตูนชุดนี้ แต่ละฉากก็เป็นตอนที่พูดถึงและตรึงใจแฟนๆ ไปดูกันว่าจะมีฉากไหนกันบ้าง ดูการ์ตูนออนไลน์ ดูการ์ตูน
เหตุการณ์เกิดขึ้นใน ภาค 5 ตอนแรก หลังจากที่ทาคุมิพึ่งจะพักหลังแข่งกับทีมเก๋าอย่าง Purple Shadow ทำให้ AE86 ต้องนำไปซ่อมแซมพักใหญ่ ช่วงนี้เองก็เกิดเรื่องวุ่นๆเมื่อพระเอกและอิซึกิไปพักผ่อนแล้วพวกเขาก็ได้เจอทีม Project D ตัวปลอมที่กำลังพบปะแฟนคลับ โดยปลอมเป็นทาคุมิและเคย์สุเกะ แถมเป็นเวอร์ชั่นนิสัยเสีย แล้วพอมีคนขอให้ดริฟท์โชว์ก็ปฏิเสธและบอกเหตุผลว่าเรียวสุเกะหัวหน้าทีมสั่งห้าม (แบบนี้ก็ได้หรือ?)
การมาของเหล่าตัวปลอมได้สร้างปัญหาให้กับทีมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทาคุมิที่โดนมิกะ นางเอกคนใหม่ตบหน้าเพราะคิดว่าทาคุมิไปหลอกเพื่อนสาวของเขานั่นเอง โชคดีที่ทางทีม Project D ตัวจริงมีสายข่าว จึงใช้จังหวะนี้กระชากหน้ากากตัวปลอมจนดิ้นไม่หลุดในที่สุด
ในช่วงเรื่องราว First Stage อิสึกิที่ได้เห็นเพื่อนรักอย่างทาคุมิแจ้งเกิด ก็เลยขอสานฝันตัวเองที่อยากซื้อ AE86 โดยยอมทุ่มเทกับงานพิเศษจนได้ Levin AE86 (ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ Truneo ต่างกันตรงที่ Truneo จะเป็นไฟป็อบอัพ) มาครอบครองสมใจปรารถนา ก่อนจะบอกทาคุมิว่าจะฝึกฝนจนเป็นคู่หูดูโอ้86แห่งเขาอากินะให้ได้
แต่ความดีใจของเขาก็ชะงักหลังจากที่ ยูอิจิ หัวหน้าที่ปั๊มน้ำมันรู้สึกสังเกตความผิดปกติ บางอย่าง เลยให้ลองติดเครื่องและขอดูอย่างละเอียด ก่อนจะได้คำตอบว่า แกซื้อผิดคันแล้ว คันนี้ไม่ใช่ AE86 แต่มันคือ AE85 !!งานนี้ทำเอาอิซึกิเสียหน้าอย่างแรงแถมโดนหัวเราเยาะจนวิ่งหนีออกจากปั๊ม แต่ทาคุมิที่เป็นเพื่อนก็ได้บอกว่า เขารู้สึกอิจฉาที่อิสึกิสามารถซื้อรถได้ตอนอยู่ ม.ปลายพร้อมให้กำลังใจเพื่อน จนทำให้อิสึกิ เชื่อมั่นในรถของตัวเอง
อย่างที่รู้กันดีว่าในภาคแรก โมงิ นัทซึกิ กับ ทาคุมิ เคยรู้จักกันมานานแต่มีเรื่องผิดใจกันทำให้ทั้งคู่ห่างกันซักพัก จนวันหนึ่งทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกันก่อนที่จะชวนไปเที่ยวทะเล แล้วในวันต่อมาโมงิชวนทาคุมิไปคุยบนดาดฟ้าของโรงเรียน พร้อมบอกความจริงที่ทาคุมิควรรู้ทันที่“จริงๆแล้ว โมงิ…ซื้อชุดว่ายน้ำมาน่ารักที่สุดเลยล่ะ” เป็นฉากชวนลุ้นถ้าใครที่ดูทั้งอนิมเมะกับการ์ตูนจะเข้าใจ (ฮ่า!) ขอบบอกว่าชุดว่ายน้ำโมงิแทบจะไม่ซ้ำเลยขอรับ ต้องลองไปดูเองครับผม
เนื้อเรื่อง รีวิว Initial D Fifth Stage
ด้วยความที่อาภัพเรื่องความรักของ อิซึกิ และ อิเคทานิ ทำให้พวกเขาเข็ดจากความรักและถือคติว่านักซิ่งตัวจริงจะไม่คิดถึงเรื่องหัวใจและมุ่งมั่นกับการแข่งรุกอย่างเดียว ซึ่งฉากนี้ถูกนำไปล้อเลียนเป็นมีมบ่อยๆ โดยเฉพาะแฟนการ์ตูนชุดนี้จะรู้ความหมายของมันเป็นอย่างดี
ใครจะไปคิดว่า รุ่นพี่อิเคทานิ จะมีบทบาทเด่นกับเขาเมื่อครั้งที่ทาคุมิต้องเจอกับทีม Impact Blue ซึ่งประกอบไปด้วยสองสมาชิกสาวอย่าง มาโกะ และ ซายูริ โดยเฉพาะมาโกะที่มีฝีมือการขับรถที่ร้ายกาจจนไม่มีหนุ่มคนไหนกล้าจีบเธอเลยแม้แต่คนเดียวจนได้เจอกับ อิเคทานิ ก่อนจะได้รู้ความจริงที่ทำให้อีกฝ่ายช็อคไม่น้อย จนหลังการแข่งจบดูเหมือนทั้งสองใกล้จะสมหวังแต่เมื่ออิเคทานิได้รู้ความจริงจึงตัดใจ ทั้งที่ทั้งสองจะนัดเจอกัน แต่ด้วยความมั่นใจและคาดหวังทำให้ยูอิจิจึงสั่งให้เขาไปหาเธอ แต่
เมื่อไปถึงก็พบว่าเธอได้จากเขาไปแล้วในที่สุด ถ้าใครอยากรู้ว่าเรื่องราวจากนี้จะเป็นเช่นไร หาดูได้ใน Initial D : Extra Stage 2 ครับผม ภาคสามที่ทำเป็นหนัง OVA โดยเล่าเนื้อหาจากหนังสือการ์ตูนช่วงตอนที่ 146-185 ซึ่งเป็นตอนที่ทาคุมิต้องเจออุปสรรคทั้งใกล้จะเรียนจบ, อดีตคู่ปรับอย่าง ทาคาฮาชิ เรียวสุเกะ ทาบทามให้เขาไปร่วมทีมใหม่ รวมถึงเคลียร์ปัญหากับ โมงิ นัทซึกิ ที่อีกฝ่าย
อยากพิสูจน์ตัวเองให้ทาคุมิยอมรับด้วยการออกไปทำงานพิเศษเพื่อลบล้างความผิดในใจ ก่อนที่จะย้ายไปเรียนต่อที่โตเกียวผู้เขียนชอบฉากวันคริสต์มาสซึ่งเป็นฉากที่ทำให้เรื่องราวของทาคุมิและโมงิได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกัน รวมถึงเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ทาคุมิตัดสินใจยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเธอในที่สุด… เหตุการณ์จากภาคที่ 4 เมื่อทีม Project-D ต้องเจอคู่แข่งที่เล่นลูกไม้สกปรก ทำให้เคย์สึเกะเกือบจะไม่ได้ลงแข่งเพราะรถคู่ใจอย่าง RX-7 ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่แล้วโชคดีก็มาเยือนเมื่อ เคียวโกะ อดีตคู่แข่งผู้แอบปลื้มเขาอยู่มาเชียร์ด้วย ทำให้
เคย์สุเกะขอพี่ชายเพื่อปล็ดล็อคกฎที่ตั้งไว้นั่นคือ จะขอยืมรถเคียวโกะลงแข่ง ซึ่งเรียวสุเกะก็อนุญาตเป็นกรณีพิเศษ เป็นฉากที่น่าจดจำเพราะว่าปกติ จะไม่เคยขับรถของคนอื่นเลย แถมเป็น RX-7เหมือนกันอีกด้วยเข้าทางเลยงานนี้ ฮ่าๆ อีกหนึ่งเหตุการณ์ในภาค 4 หลังจากที่ทาคุมิเอาชนะโรงเรียนพิเศษโทโด ก่อนจะไปส่งของตามปกติ ทว่ามีรถลึกลับขอท้าแข่งกับพระเอก
แล้วทาคุมิต้องตกใจว่ารถคันนี้คือ ซุบารุ วิ่งตัดหน้าผ่านเขาไป หลายวันผ่านไปทาคุมิก็ได้รู้ความจริงว่าเจ้าของรถคือพ่อของเขาเอง โดยบุนตะให้ลูกสลับขับกับ AE86 ไปส่งของซึ่งเป็นแบบฝึกหัดสุดท้ายที่ทำให้ทาคุมิแกร่งขึ้นไปอีกขั้นนั่นเองเรื่องในภาคสอง เมื่อทาคุมิได้รับจดหมายนิรนาม บอกข่าวว่าเพื่อนสาวของเขา โมงิ เป็นเด็กเสี่ยและมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งด้วย ซึ่งตอนแรกทาคุมิก็ไม่ปักใจเชื่อ จนเมื่อมีโทรศัพท์บอกพิกัดที่อยู่จึงตัดสินใจแวะไปดูให้เห็นกับตา ซึ่งเมื่อไปดูก็พบว่าไม่
เห็นจะมีอะไร แต่เมื่อเขาเห็นโมงิมากับเสี่ยขับเบนซ์ทำให้ความโกรธครอบงำ ก่อนที่จะขับรถไปเขาอาคางิ เพื่อไปแข่งกับ เคียวอิจิ ซุโด แห่งทีม Emperor ก่อนจะพ่ายแพ้ไปอย่างสะบักสะบอมหลายวันผ่านไปเมื่อทั้งคู่ได้เจอกันทาคุมิกลับมองหน้าไม่ติด ก่อนจะบอกให้เธอเลิกกวนใจและให้ไปหาคนขับเบนซ์ ได้ยินก็ทำเอาโมงิเสียใจไปไม่น้อยเลยทีเดียว
รีวิว Initial D Fifth Stage
ความจริงแล้วในฉบับหนังสือการ์ตูนเข้มข้นกว่านี้อีก เพราะมีตัวละครสาวแว่นที่ชื่อ ชิราอิชิ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของโมงิ เข้ามามีบทบาทและเป็นคนบอกความจริงกับทาคุมิ ว่า อาเสี่ยขับเบนซ์คนนี้ คือพ่อของเธอนั่นเอง ซึ่งในภาค Legend Trilogy ก็โผล่ออกมาสั้นๆไม่ได้มีบทบาทแค่ปรากฏให้เห็นพอสังเขป
ถือว่าเป็นฉากที่น่าจดจำต่อจากเหตุการณ์เมื่อกี้ ทาคุมิขอเจอกับ เคียวอิจิ ซุโด แห่งทีม Emperor ก่อนจะแข่งขัน ซึ่งรอบนี้เครื่องยนต์ของ AE86 ก็ถึงลิมิตก่อนจะพังต่อหน้าต่อตาเขา ทำให้การแข่งครั้งนี้เขาต้องพ่ายแพ้ครั้งแรก ซักพักบันตะที่ขับรถยกมาก็พาเจ้า AE86 ขึ้นรถยกเพื่อนำไปซ่อมแซม
ทาคุมิรู้สึกผิดจึงขอรับผิดชอบค่าเสียหาย แต่บุนตะก็ได้เล่าว่านอกจากเงินค่าทำงานพิเศษของเขาแล้วยังมีค่าจ้างจากการไปส่งเต้าหู้ด้วย ทำให้ทาคุมิขอให้พ่อนำเงินก้อนนี้เป็นค่าซ่อม แต่บุนตะก็บอกว่าเครื่องยนต์นี้มันพังแล้วก็ต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่อันที่จริงทั้งหมดเป็นแผนที่บันตะคาดการณ์ไว้แล้ว ก่อนที่จะให้เพื่อช่วยหาเครื่องยนต์ใหม่จนเป็นที่มาของเครื่องยนต์ทรงพลังอย่าง 4AG-20V ที่ปรับแต่งสำหรับลงแข่ง Group A มาเป็นหัวใจใหม่ให้กับ AE86 นั่นเอง
สิ่งที่ฉันไม่สามารถพูดได้มีการปรับปรุงหรือยังคงเหมือนเดิมสำหรับเรื่องนั้นคือแอนิเมชั่น 2 มิติ สำหรับสิ่งต่าง ๆ เช่นการ์ตูน เราคาดหวังว่างานศิลปะ 2 มิติจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป น่าเสียดาย ที่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นกับ Initial D Fifth Stage ดูภาพหน้าจอสองภาพที่ฉันให้ไว้ทางด้านซ้าย ภาพบนเป็นตัวละครหลัก ทาคูมิ ในขั้นที่ห้า ภาพด้านล่างเป็นของทาคุมิจาก Fourth Stage แม้ว่าภาพจาก Fifth Stage จะดูมีสีสันและแวววาวมากกว่า แต่ก็ให้ความรู้สึกเย็นชาและประดิษฐ์เกินไป ในแง่หนึ่งมัน
ก็เหมือนการ์ตูนเกินไป เมื่อดูภาพด้านล่างของทาคุมิจากด่านที่สี่ งานศิลปะ 2 มิติจะให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีจุดแวววาวบนใบหน้าของทาคูมิ นี่ดูเหมือนจะเป็นคุณลักษณะที่ดำเนินไปตลอดทั้งฤดูกาล กับตัวละครทั้งหมด อาจเป็นแค่ฉัน แต่คุณภาพของการวาดตัวละครดูเหมือนจะแย่ลงแทนที่จะดีขึ้นใน Fifth Stage แม้ว่าตัวละครจะดูไม่ค่อยดูน่าอึดอัดใน First Stage (First Stage ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางทศวรรษที่ 90) พวกเขาดูเหมือนจะไม่ถูก
วาดเหมือนในภาพยนตร์ Fourth Stage หรือ Third Stage แน่นอน หลายคนยังกล่าวด้วยว่างานของ Shuichi Shigeno นั้นดูเกียจคร้านอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งอาจส่งผลให้งานศิลป์ที่น่าประทับใจน้อยกว่าในขั้นตอนที่ห้า อีกครั้ง ถ้าคุณวาดสิ่งเดียวกันนี้มานานกว่า 18 ปี ฉันแน่ใจว่าคุณคงจะเริ่มขี้เกียจกับมันเช่นกัน รีวิว อนิเมะ
