รีวิว Fire Force
หน่วยผจญคนไฟลุก, Fire Force หรือ Enen no Shouboutai อนิเมะแนวแอ็คชั่น พลังพิเศษ จากมังงะของ โอคุโบะ อัทสึชิ ผู้เขียน Soul Eater อนิเมะเป็นผลงานของสตูดิโอ David Production ผู้เคยสร้างผลงานเด่นหลายเรื่อง อย่างซีรีส์ Jojo, Hataraku Saibou (เซลล์ขยันพันธุ์เดือด), Inu × Boku SS, Ensemble Stars! และอื่นๆ รีวิว Fire Force ดูการ์ตูนออนไลน์ ดูการ์ตูน
มนุษยชาติกำลังหวาดกลัว… จู่ๆ คนปกติธรรมดาก็ไฟลุกเป็นอสูรไฟ คนไฟลุกทำลายทุกสิ่งจนหมดสิ้นเพราะ “ปรากฏการณ์ร่างติดไฟ”นี้ หน่วยดับเพลิงพิเศษผู้เผชิญหน้ากับความกลัวไฟ จึงมีหน้าที่ไขปริศนาของปรากฏการณ์และช่วยเหลือมวลมนุษย์ “ชินระ” เด็กหนุ่มเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ที่ถูกเรียกว่า “ปีศาจ” หมายมั่นจะเป็น”ฮีโร่” ทุ่มเทตัวเองในแต่ละวันต่อสู้กับ “คนไฟลุก” ด้วยกันกับเหล่าพวกพ้อง! การต่อสู้สุดมหัศจรรย์กับไฟที่ลุกโชติช่วงได้เริ่มขึ้นแล้ว!
มังงะชื่อดังส่วนใหญ่เลือกสตูดิโอใหญ่ที่ผลิตงานได้นานๆ อย่าง One Piece, Black Clover, Boruto แต่การที่ทำงานให้เสร็จ คุณภาพงานจึงลดลงไปด้วย การที่จะผลิตอนิเมะคุณภาพสักเรื่องจึงต้องแบ่งทีมงานมาช่วยไม่น้อย อย่าง เบื้องหลังของ Dr.Stone ที่กว่าจะเสร็จสักขั้นตอนกินเวลาน่าดู เลยไม่แปลกที่เราไม่ค่อยได้เห็นอนิเมะฉากต่อสู้ดีๆ มากนัก
ปัจจุบัน เรื่องยาวก็ไปแก้ปัญหา ทุ่มเทกับฉากสำคัญของเรื่องเป็นช่วงๆ อย่าง Black Clover ที่เผางานเกือบทุกตอน แต่ฉากสู้สำคัญๆ แฟนกระทืบไลค์ให้อย่างท่วมท้น ถ้าจะให้ปรับทุกฉากคงเป็นไปไม่ได้ คงต้องรอรีเมคในอีกสิบปีข้างหน้าพูดคุณงานน้ำดีแนวแอ็คชั่น ถ้าย้อนไปในปี 2019 อนิเมะจากมังงะ แบบที่คุณภาพดี คงต้องยกให้ ดาบพิฆาตอสูร แต่ ufotable ถึงจะเป็นบริษัทใหญ่
แต่ก็ไม่ค่อยผลิตงานได้ต่อเนื่องนัก ทำให้มีอุปสรรคในการทำภาคต่อที่กินเวลานานกว่าสตูดิโออื่นๆ เช่นเดียวกับ ผ่าพิภพไททัน ของ Wit Studio ที่กินเวลาไม่น้อยกว่าจะผลิตเสร็จสักภาค สำหรับ David Production ถือเป็นสตูดิโอหนึ่งที่ดูหนังออนไลน์คุณภาพงานดีมานาน เพียงแต่ไม่ค่อยได้งานเป็นอนิเมะใหม่ในกระแสเท่านั้น ที่เด่นหน่อย Jojo แต่ก็ไม่ได้เป็นแนวแอ็คชั่นเต็มที่ (แม้จะมีแลกหมัดในภาค 1-2 แต่ก็ไม่ได้บู๊ขนาดนั้น)
จนได้มาทำเรื่อง Fire Force แต่ถ้าย้อนจริงๆ ค่ายนี้ก็เคยทำอนิเมะแนวแอ็คชั่นมาก่อน ตั้งแต่ปี 2011 อย่าง Ben-To ที่ดัดแปลงจากนิยายไลท์โนเวล และถือว่าทำออกมาได้ดีในยุคนั้น เนื้อหาจะเป็นแนวแอ็คชั่นโชเน็นแฟนตาซีที่ใช้พลังพิเศษปราบปีศาจที่เรียกกันว่า “คนไฟลุก” เกิดจาก”ปรากฏการณ์ร่างติดไฟ” ไม่ใช่แค่เพียงต่อสู้ไปเรื่อยๆ แต่มีเรื่องของศาสนาความเชื่อมาเกี่ยวข้องและยังต้องช่วยกันสืบ ช่วยกันแก้ปริศนาต่างๆ โดยผู้ที่
ดำเนินการทั้งหมดคือ”หน่วยดับเพลิงพิเศษ”ที่แบ่งกันไปตามเขตแต่ละเขต สำหรับตัวละครเอกหรือ “ชินระ”เองก็มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่น่าหดหู่ซึ่งมีฉากที่คอยเล่าให้เห็นอยู่บ่อยๆ ในเรื่องเหมือนกัน โดยตัวเอกจะค่อยๆ คลายปมปริศนาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปจนถึงต้นตอได้หรือไม่ คือการดำเนินเรื่องหลักๆ คร่าวๆ
เนื้อเรื่อง รีวิว Fire Force
สำหรับหน่วยดับเพลิงพิเศษที่ออกทำงานเมื่อมี ”ปรากฏการณ์ร่างติดไฟ” นั้น คนในหน่วยจะแบ่งหน้าที่กันตามพลังความสามารถกันไป เช่นควบคุมไฟได้เอง ใช้อุปกรณ์ และสวดส่ง มีความหลากหลายและสามารถมาประกอบกับฉากแอ็คชั่นที่ต่อเนื่องได้อย่างลงตัว ชุดของหน่วยก็ออกแบบมาได้เท่เลยทีเดียว
สำหรับหน่วยดับเพลิงพิเศษที่ 8 ที่เป็นตัวละครหลัก ก็มีตัวละครคาแรคเตอร์ที่แยกง่ายพอสมควร เช่น ชินระพระเอกของเรามักจะเผลอยิ้มประหลาดๆ ตัวละครอื่นๆ เช่นกันอย่าง ทามากิ โคทัตสึ ที่มักจะซุ่มซ่ามจนออกแนวโดนลวนลามฟรีบ่อยๆ (สำหรับภาพของทามากิ ยังไงก็ลองหามาอ่านดูละกันเนอะ) ซึ่งคาแรคเตอร์ของแถมพวกนี้จะโยงไปกับมุขสุดฮาได้อีกด้วย ในด้านตัวละครปริศนาก็โผล่ออกมาได้ดูน่าเกรงขาม กดดัน บรรยากาศ
สำหรับความคิดเห็นต่ออนิเมะเรื่องนี้นั้น อนิเมะเรื่องนี้ทำมาจากมังงะโดยผู้ที่แต่งมังงะเรื่องนี้นั้น ก็คือผู้เขียน Soul Eater ยมทูตแสบสายพันธุ์ซ่า หรือ คุณ อัตสึชิ โอกูโบะ นั่นเอง ดังนั้นคุณภาพทางด้านเนื้อเรื่องนั้นขอบอกเลยว่าทำออกมาดีแน่นอน ไร้ซึ่งข้อกังวล ส่วนทางด้านเพลง Opening และ Ending ของอนิเมะนั้นถือว่าเพราะมาก ส่วนทางด้านภาพนั้นฉากต่อสู้ถือว่ามันมาก นัวกันตุบตับเละเทะเลย
แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าฉากปกตินั้นภาพจะออกมาไม่ดีเพราะสตูดิโอนี้มีผลงานยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็น โจโจ้:ล่าข้ามศตวรรษตั้งแต่ภาคสามถึงภาคห้า เซลล์ขยันพันธุ์เดือด มอนเตอร์ฮันเตอร์สตอรี่:ไรด์ออน และผลงานอนิเมะอื่นๆอีกมากมายซึ่งออกมาดีทั้งนั้น ดังนั้นถ้าท่านผู้อ่านกำลังคิดอยู่ว่าจะดูอนิเมะเรื่อง Enen no Shouboutai หน่วยผจญคนไฟลุก ดีหรือไม่ ทางผมซึ่งผู้เขียนนั้นก็คงต้องขอบอกเลยว่าถ้าคุณกำลังมองหาอนิเมะที่แนวคล้าย Soul Eater ภาพสวย เนื้อเรื่องดี ดูเลย
ครับ แนะนำอย่างมาก คุ้มค่าเวลาที่เสียไปในการดูอนิเมะเรื่องนี้อย่างแน่นอนครับ สามารถหารับชมได้แบบทันท่วงทีที่ Netflix สำหรับความคิดเห็นต่ออนิเมะเรื่องนี้นั้น อนิเมะเรื่องนี้ทำมาจากมังงะโดยผู้ที่แต่งมังงะเรื่องนี้นั้น ก็คือผู้เขียน Soul Eater ยมทูตแสบสายพันธุ์ซ่า หรือ คุณ อัตสึชิ โอกูโบะ นั่นเอง ดังนั้นคุณภาพทางด้านเนื้อเรื่องนั้นขอบอกเลยว่าทำออกมาดีแน่นอน
ไร้ซึ่งข้อกังวล ส่วนทางด้านเพลง Opening และ Ending ของอนิเมะนั้นถือว่าเพราะมาก ส่วนทางด้านภาพนั้นฉากต่อสู้ถือว่ามันมาก นัวกันตุบตับเละเทะเลย แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าฉากปกตินั้นภาพจะออกมาไม่ดีเพราะสตูดิโอนี้มีผลงานยอดเยี่ยมมาก ไม่ ว่าจะเป็น โจโจ้:ล่าข้ามศตวรรษตั้งแต่ภาคสามถึงภาคห้า เซลล์ขยันพันธุ์เดือด มอนเตอร์ฮันเตอร์สตอรี่:ไรด์ออน
และผลงานอนิเมะอื่นๆอีกมากมายซึ่งออกมาดีทั้งนั้น ดังนั้นถ้าท่านผู้อ่านกำลังคิดอยู่ว่าจะดูอนิเมะเรื่อง Enen no Shouboutai หน่วยผจญ คนไฟลุก ดีหรือไม่ ทางผมซึ่งผู้เขียนนั้นก็คงต้องขอบอกเลยว่าถ้าคุณกำลังมองหาอนิเมะที่แนวคล้าย Soul Eater ภาพสวย เนื้อเรื่องดี ดูเลยครับ แนะนำอย่างมาก คุ้มค่าเวลาที่เสียไปในการดูอนิเมะเรื่องนี้อย่างแน่นอนครับ สามารถหารับชมได้แบบทันท่วงทีที่ Netflix
รีวิว Fire Force
คุซาคาเบะ ชินระ หนุ่มผู้มีพลังพิเศษรุ่นที่ 3 มีความสามารถพิเศษในการจุดไฟจากเท้า ถูกเรียกว่า “รอยเท้าปิศาจ” ชินระ ต้องการสืบหาสาเหตุของเหตุเพลิงไหม้ปริศนา ที่สังหารชีวิตครอบครัวของตนเมื่อ 12 ปีก่อน จึงเข้าร่วมหน่วยดับเพลิงพิเศษที่ 8 ระหว่างร่วมงานกับสมาชิกหน่วยที่ 8 ชินระได้ทราบหลายเรื่อง อย่าง ความลับของกลุ่มหัวหน้าหน่วยที่ 1 – 7 ที่มีเงื่อนงำอย่างคาดไม่ถึง
เหตุการณ์คนไฟลุก ซึ่งไม่ได้เกิดตามธรรมชาติ แต่มีคนที่ก่อเหตุ กับปริศนาอีกหลายอย่างที่เชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์ในอดีต ต่อสู้ แอ็คชั่น พลังพิเศษ คุณภาพงานอนิเมชั่นดีเรื่องหนึ่ง เนื้อเรื่องค่อนข้างแหวกแนว ดึงจุดเด่นของนักผจญเพลิงเข้ามาผสม เดินเรื่องค่อนข้างไว ไม่ค่อยมีฉากยืดเหตุการณ์โดยไม่จำเป็น ผสมระหว่างฉาก ต่อสู้ ชีวิตประจำวัน ตลกคอเมดี้ ค่อนข้างลงตัว
สรุปแล้ว ”หน่วยผจญคนไฟลุก”ก็อาจมีฐานแฟนๆ ตั้งแต่ Soul Eater ผลงานเก่าของอาจารย์อยู่ แต่ก็เป็นมังงะแนวแอ็คชั่นที่มีความโดดเด่นอีกเรื่องโดยเฉพาะการนำหน่วยดับเพลิงที่เป็นฮีโร่ของคนอยู่แล้วมาเป็นฮีโร่สุดเท่อีกขั้นหนึ่ง ที่ช่วยปกป้องผู้คน จากอันตราย ประกอบกับเบื้องลึกเบื้องหลังของเหตุการณ์ต่างๆ แต่เฉพาะเล่ม 1 ยังคงเป็นส่วนปูเนื้อเรื่อง ที่ต้องอาศัยการอ่านต่อไปอีกยาวๆ จนจะทำให้ผู้อ่านเริ่มเข้าถึงเนื้อหาเข้าไปลึกๆ อีกเรื่อยๆ รีวิว อนิเมะ