รีวิวหนัง โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป

ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่สามารถเรียกน้ำตาผู้รับชมได้ โดราเอมอนนั้นเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการ์ตูนหรืออนิเมชั่นที่สร้างมาจากหนังสือต้นฉบับ หรือแม้แต่ฉบับ The Movie หรือฉบับอนิเมชั่นแบบพิเศษ ปกติแล้วการ์ตูนหรืออนิเมชั่นที่สร้างมาจากหนังสือต้นฉบับนั้นมักจะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่ในฉบับ The Movie นั้นมักจะมีความแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน ดูอนิเมะ
เคยสังเกตกันหรือไม่ว่าภาพยนตร์โดราเอมอนเดอะมูฟวี่นั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะมีเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความดราม่าเรียกน้ำตาตั้งแต่ต้นจนจบ จนดูเหมือนกับว่าภาพยนตร์โดราเอมอนนั้นกลายเป็นภาพยนตร์ที่มาพร้อมกับฉากเรียกน้ำตาอย่างสม่ำเสมอในทุกเรื่องทุกภาค รีวิวการ์ตูนสนุก

และดูเหมือนว่าความดราม่าเรียกน้ำตานี้จะยิ่งสร้างความนิยมให้กับภาพยนตร์อนิเมชั่นของโดราเอมอนได้มากยิ่งขึ้น จนทำให้ช่วงหลังมานี้ภาพยนตร์โดราเอมอนมักจะสร้างออกมาเพื่อเรียกน้ำตาของผู้ชมโดยเฉพาะ แต่ถึงแม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยความดราม่าเรียกน้ำตาแต่ก็ยังคงสามารถสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะในประเทศไทย

รีวิวหนัง โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป

รีวิวหนัง โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป หลังจากออก Doraemon The Movie มาเป็นจำนวนมากใน ที่สุดก็ถึงคราวที่จะมีการสร้างภาพยนตร์โดราเอมอนในแบบอนิเมชั่นสามมิติที่มีงานภาพคมชัดและสวยงามมากยิ่งขึ้น จนในปี 2014 นั้นเราได้ยินภาพยนตร์เรื่อง Stand by Me Doraemon โดราเอมอนเพื่อนกันตลอดไป ในรูปแบบของงานภาพอนิเมชั่น 3 มิติที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ดูอนิเมะผู้หญิง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งในด้านรายได้และคำวิจารณ์ ทำให้มันกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้างและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นเรื่องราวยังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ความอบอุ่น และฉากเรียกน้ำตาตามแบบฉบับเอกลักษณ์ของภาพยนตร์จาดการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะสามารถจบได้อย่างสวยงามและลงตัวแล้ว แต่ด้วยกระแสความนิยมที่ยังคงเป็นที่พูดถึงมาจนถึงในปัจจุบัน ทำให้สุดท้ายแล้วทีมผู้สร้างก็สร้างภาคต่อออกมาในชื่อ Stand by Me Doraemon 2 โดยจะเล่าเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคแรก ใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องโดราเอมอนไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด
โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Stand by Me Doraemon 2

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Stand by Me Doraemon 2
Stand by Me Doraemon 2 จะเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น 6 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก โนบิตะนั้นได้พบเข้ากับตุ๊กตาหมีตัวหนึ่งที่เก่าจนสภาพแทบจะดูไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามเขาจำได้ว่ามันคือตุ๊กตาตัวเดียวกับที่เขานั้นเคยเล่นสมัยยังคงเป็นเด็กอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยความทรงจำ
และตุ๊กตาเก่าๆ ตัวนี้ก็ทำให้เขานั้นได้นึกถึงคุณย่าผู้แสนดีที่จะไปเป็นเวลานานแล้ว อย่างที่เราทราบกันดีว่าโนบิตะนั้นมีความสนิทสนมและรักคุณย่าของตนเองเป็นอย่างมาก เพราะคุณย่านั้นเป็นคนที่ใจดีและมักจะสอนโนบิตะให้ได้เรียนรู้ถึงสิ่งต่างๆ มากมายอีกด้วย ช่วงเวลาที่เขาต้องเสียคุณย่าไปนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ด้วยเหตุนี้ทำให้เขานั้นมีความต้องการที่จะกลับไปในอดีตด้วยการย้อนเวลาเพื่อให้ได้พบกับคุณย่าที่ตนเองรักอีกครั้ง โนบิตะจึงได้ตัดสินใจที่จะชวนโดราเอมอนให้กลับไปพบกับคุณย่า ทั้งสองนั้นจึงไม่รีรอและรีบย้อนเวลากลับไปทันที ในขณะที่พูดคุยกันอย่างสนุกสนานนั้นคุณย่าก็ได้พูดขึ้นมาว่าอยากจะพบเจอกับเจ้าสาวของหลานชายสักครั้ง
ด้วยเหตุนี้ทำให้ทั้งสองคนนั้นตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังอนาคตในวันแต่งงานของโนบิตะเพื่อตามหาว่าเจ้าสาวของเขานั้นคือใคร แต่พอเขาเดินทางไปยังอนาคตได้สำเร็จเขาก็พบว่าตนเองที่เป็นผู้ใหญ่ในอนาคตนั้นกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับชิซูกะแต่เขากลับหนีหายไปจากงานแต่งงาน
เพื่อให้ความต้องการของคุณย่าเป็นจริงทำให้โนบิตะในวัยเด็กและเพื่อนของเขาอย่างโดราเอมอนนั้นต้องพยายามตามหาตนเองในวัยผู้ใหญ่ที่หนีหายไปให้กลับมาแต่งงานเพื่อให้เรื่องราวเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น พวกเขาจะสามารถตามหาโนบิตะวัยผู้ใหญ่และทำให้เขากลับมาแต่งงานได้สำเร็จหรือไม่ สามารถติดตามรับชมได้ในภาพยนตร์
โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป

สาเหตุที่คุณควรรับชมภาพยนตร์เรื่อง Stand by Me Doraemon 2

สาเหตุที่คุณควรรับชมภาพยนตร์เรื่อง Stand by Me Doraemon 2
Stand by Me Doraemon 2 เป็นภาพยนตร์ที่จะทำให้เรานั้นได้หายคิดถึงการ์ตูนที่ชื่นชอบในวัยเด็กอย่างโดราเอมอนอย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นหากคุณเคยรับชมภาพยนตร์ภาคแรกมาก่อนแล้วการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จะสนุกมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะมันเล่าถึงเรื่องราวที่มีเส้นเรื่องคาบเกี่ยวกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้เรานั้นได้ดูตัวละครที่เรารู้สึกผูกพันมาตั้งแต่ในวัยเด็กเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ มีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีความชัดเจน มีการสอดแทรกมุขตลกเข้ามาพอสมควรเพื่อให้เรื่องราวไม่ตึงเครียดจนเกินไปและสร้างความสนุกสนานในเรื่องราวมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นมุกตลกที่มีความสลับซับซ้อนมากกว่าการเป็นการ์ตูนเด็กธรรมดา
โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการเล่าถึงเรื่องราวความพยายามของโนบิตะและโดราเอม่อนในการเดินทางข้ามเวลาไปมาเพื่อแก้ไขทั้งอดีตและอนาคต ทำให้เรื่องราวนั้นต้องวุ่นวายมากมายเพราะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเวลา ไม่เพียงเท่านั้นยังเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโนบิตะและครอบครัว รวมไปถึงโนบิตะและกลุ่มเพื่อนอีกด้วย
และการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ตัดสินใจที่จะหยิบยกนำเอาเรื่องราวที่เศร้าที่สุดในหนังสือการ์ตูนอย่างเรื่องราวของคุณย่ามาเล่า ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยฉากเรียกน้ำตามากมาย ไม่เพียงเท่านั้นเรื่องราวที่เล่านั้นยังขยี้ตรงนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนทำให้เรานั้นร้องไห้ออกมาได้ไม่ยากนัก

เพื่อความคุ้นเคยของเสียงพากย์การ์ตูนโดราเอมอน ทาง M Pictures ได้เลือกใช้บริการทีมพากย์ของช่อง 9 อ.ส.ม.ท. อันเป็นเสียงพากย์ทีคุ้นเคยสำหรับคนที่เคยดูการ์ตูนโดราเอมอนของช่อง 9 การ์ตูนมาตั้งแต่ปี 2525 โดยมีเหล่าทีมงานพากย์มาร่วมงานในวันเปิดตัวที่ 15 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมาด้วย

โดยรายชื่อทีมพากย์ก็มีดังนี้ เรื่อง Stand by Me Doraemon 2

คุณ ฉันทนา ธาราจันทร์ พากย์เสียง โดราเอมอน
คุณ ศันสนีย์ สมานวรวงศ์ พากย์เสียงโนบิตะ
คุณ ศรีอาภา เรือนนาค พากย์เสียง ชิซุกะ
คุณ อรุณี นันทิวาส พากย์เสียง ซุเนโอะ
และ คุณ นิรันดร์ บุญยรัตพันธุ์ หรือ น้าต๋อย เซมเบ้ ยังคงพากย์เสียง ไจแอนต์ ในภาพยนตร์ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ หลังประกาศเลิกพากย์การ์ตูนเพราะเป็นโรคหอบหืด
ซึ่งเหล่าทีมพากย์ทุกคนยังคงทำหน้าที่ได้ดีเช่นเดียวกับเมื่อครั้งยังพากย์ให้กับช่อง 9 อ.ส.ม.ท. สามารถเรียกเสียงฮาจากผู้ชมได้ โดยที่ไม่ทำให้บทของภาพยนตร์ผิดเพี้ยน แต่ก็มีที่สงสัยอยู่อย่าง ตรงเรื่องชื่อของตัวละคร ทำไมเซวาชิถึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโซบิ? และเดคิสุกิเปลี่ยนเป็นเอสุกิ? ตรงนี้คิดว่าน่าจะอยู่ที่บทมากกว่า (ผมว่าผมฟังไม่ผิดนะ)
พูดถึงเรื่องบทของภาพยนตร์ Stand by me Doraemon ก็ไม่ใช่บทเนื้อเรื่องใหม่อะไร แต่เป็นการรวมเอาการ์ตูนโดราเอมอน 10 ตอน ที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของโนบิตะ มารวมไว้เป็นตอนเดียวกัน โดยเขียนบทบางจุดให้เนื้อเรื่องสามารถเชื่อมโยงกันได้ ซึ่งทางคุณ ทาคาชิ ยามาซากิ (จากเรื่อง Space Battleship Yamato และ ปรสิตเดรัจฉาน) ผู้กำกับและผู้เขียนบทของภาคนี้ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว ทุกตอนที่เคยแยกจากกันเป็นคนละตอนกลับรวมเป็นตอนเดียวได้อย่างเนียน ด้วยการดัดแปลงเรื่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็นั่นแหละเพราะดัดแปลงน้อยมากๆ เนื้อเรื่องก็เลยยังคงเหมือนในการ์ตูน ไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก สำหรับคนที่อ่านการ์ตูนมาแล้ว
ถึงแม้เนื้อเรื่องจะเหมือนกับในหนังสือการ์ตูน ซึ่งตัวผมก็เคยอ่านการ์ตูนทั้ง 10 ตอนนี้มาแล้ว แต่หลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์แล้วกลับรู้สึกได้เลยว่า มันต่างกันครับ! อารมณ์มันต่างกับตอนนั่งอ่านจากหนังสือการ์ตูนเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพ ที่ทำเป็น 3D CG ที่สวยงามมาก เก็บทุกรายละเอียด ทั้งสีหน้าตัวละคร ฉากหลัง รายละเอียดเสียงและแสงเงา ที่ผมเคยนำมาเบืองหลังการสร้างมาให้ดูกันทีหนึ่งแล้ว ว่ากว่าจะสร้างออกมาแต่ละฉากนั้น 3D CG ทำยากกว่าที่หลายคนคิดเยอะ (ในเรื่องมีโลโก้สปอนเซอร์ของภาพยนตร์ภาคนี้อยู่เยอะเลยล่ะ) และทีเด็ดอีกอย่างของภาพยนตร์นี้ก็คือดนตรีประกอบที่เข้ากับอารมณ์ของฉากช่วงนั้นๆได้มากเลย จากปกติตอนอ่านจากหนังสือการ์ตูน แทบจะไม่รู้สึกอะไร แต่พอชมภาพยนตร์กลับรู้สึกซึ่งมากครับ

รีวิวหนัง โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป สรุป

รีวิวหนัง โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป สรุปจากความรู้สึกที่ได้ไปชมภาพยนตร์ Stand by me Doraemon ครั้งนี้ รู้สึกประทับใจในการสื่ออารมณ์ที่ทำออกมาได้ดี และฉาก 3D CG ที่สวยงามมาก แม้จะเป็นตอนที่เคยดูเคยอ่านมาแล้วทั้งนั้นก็ยังดูแล้วประทับใจอยู่ แต่ในส่วนเนื้อเรื่องนั้นเฉยๆมากสำหรับคนที่เคยอ่านมาแล้ว เพราะมันเหมือนอ่านการ์ตูนแทบจะ 100% สำหรับใครที่เคยอ่านการ์ตูนโดราเอมอนมาแบบปรุโปร่งแล้ว ก็สามารถข้ามไปได้ครับ ส่วนใครที่ไม่เคยอ่านการ์ตูนมาก่อน หรืออยากสัมผัสภาพ 3D CG สวยๆและการสื่ออารมณ์ของเนื้อเรื่องที่แตกต่างจากการอ่านการ์ตูน แนะนำว่าไม่ควรพลาด

 ว่ากันตามจริงแล้วต้องบอกก่อนว่าความแตกต่างสำคัญระหว่าง Stand by Me Doraemon กับแอนิเมชันโดราเอมอนที่เป็นภาคการผจญภัยต่าง ๆ ซึ่งมีออกฉายมาแทบทุกปีนั้น หลัก ๆ คือกลุ่มผู้ชม เพราะในขณะที่แอนิเมชัน 2 มิติจะจับกลุ่มเด็กจริง ๆ ที่เน้นเรื่องของฉากการผจญภัยหวือหวา มีเพื่อนใหม่ของโนบิตะที่น่าสนใจซึ่งมักไม่ใช่คน เรียกว่าอัดแฟนตาซีจัดเต็มกว่า

แต่แอนิเมชัน 3 มิติ ในชุด Stand by Me Doraemon นั้น จะจับความสนใจ หรือความเข้าใจกับอดีตเด็ก หรือผู้ใหญ่ในปัจจุบันที่โตมากับการ์ตูนชุดโดราเอมอนได้ดีกว่า ทั้งด้วยเรื่องของฉากการผจญภัยที่จะไม่แฟนตาซีเท่า ดูมีความดราม่าเรื่องความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกว่าและต้องอาศัยความเข้าใจมากขึ้น นอกจากนี้มุกการเล่าเรื่องก็ยังสามารถใส่ความซับซ้อนได้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการย้อนเวลาแก้ไขอดีต-อนาคตไปมา ซึ่งที่ว่ามามันคือหนังแอนิเมชันสำหรับเด็กโตจนถึงวัยผู้ใหญ่ดูนั่นเอง  สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ ‘Stand by Me Doraemon 2 โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป 2’ ด้านเนื้อเรื่องนั้น ก็แอบประหลาดใจเล็กน้อยที่หนังมีความเชื่อมโยงแบบจับต้องได้กับหนังภาคแรก ซึ่งที่คาดไว้ทีแรกคือหนังน่าจะแยกกันจบในตัวแบบแอนิเมชัน 2 มิติที่แต่ละตอนไม่ต้องเชื่อมโยงกัน ด้วยระยะเวลาที่ทิ้งห่างมาถึง 6 ปี คนที่ดูภาคแรกก็น่าจะลืมรายละเอียดไปเยอะแล้ว ทว่าผู้สร้างก็คงความตั้งใจให้หนังชุดนี้มีความเป็นชุดสะสม ที่เรื่องราวต่อเนื่องเป็นหนังชุดเดียวกันนั่นเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *